ลาเชีย เชอร์ล็อค รองผู้บริหารฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ไทย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อิเกียมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อสรรค์สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้ผู้คนทั่วไปในทุกๆ วัน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของนักช้อปรุ่นใหม่ที่ทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันบนอินเทอร์เน็ต จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อเอาใจนักช้อปรุ่นใหม่ และเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและแรงบันดาลใจดีๆ จากอิเกีย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทั่วไทย โดยเราใช้เวลาร่วม 2 ปี ศึกษาความต้องการของตลาดและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อเปิดให้บริการอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายให้นักช้อปออนไลน์ได้รับประสบการณ์น่าประทับใจไม่ต่างจากการมาช้อปที่สโตร์ ปัจจุบันได้เปิดสโตร์อิเกียออนไลน์ในสิงค์โปร์ มาเลเซีย และไทย
“เราเปิดให้บริการอีคอมเมิร์ซในสิงคโปร์เมื่อปี 2560 และมาเลเซียในปี 2561 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาดทั้งสองที่ โดยในสิงคโปร์ยอดขายจากอีคอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขายทั้งหมด ในขณะที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากเปิดให้บริการได้เพียง 3 เดือน สร้างยอดขายได้ถึง 5% ของยอดขายทั้งหมด และล่าสุดอิเกียเริ่มทดลองเปิดให้บริการอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อทดสอบระบบและการทำงานต่างๆ ให้มีความพร้อมเต็มที่ก่อนจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเรามั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของนักช้อปออนไลน์ในไทย และจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน”
ด้าน ทอม ซูเทอร์ ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย บางใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับสโตร์อิเกียออนไลน์ของเราหลังจากที่ได้ทดลองให้บริการเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ IKEA.co.th แล้วถึง 30,000 ครั้ง/วัน มียอดสั่งซื้อออนไลน์ 4,900 ครั้ง ยอดค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย* 7,000 บาท/ใบเสร็จ โดยจังหวัดที่มียอดสั่งซื้อสูงสุด 5 อันดับ*1. กรุงเทพฯ 2.ภูเก็ต 3.ชลบุรี 4. เชียงใหม่ 5.นนทบุรี ทั้งนี้ เราตั้งเป้าว่าภายในปี 2562 จะมียอดสั่งซื้อออนไลน์ 17,000 ครั้ง และเราเชื่อว่าสโตร์อิเกียออนไลน์จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้อิเกีย ประเทศไทย ด้วยประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เติมเต็มกันทั้งในสโตร์และออนไลน์