“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย”ได้ฤกษ์เริ่มก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เฟสแรก

วันเสาร์ที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2562

“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย”ได้ฤกษ์เริ่มก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เฟสแรก


®  โครงการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย (พื้นที่รวมประมาณ 60,000 ตร.ม.) ชูมาตรฐานการออกแบบและพัฒนาระดับสากล ตั้งบนทำเลยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ ย่านรามคำแหง

®  ล่าสุดได้มีการลงเสาเอกและเริ่มดำเนินการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้อย่างเป็นทางการ คาดแล้วเสร็จพร้อมให้บริการในปี 2564

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” (ชื่อเดิมไทคอน) ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จับมือเอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ หรือ “เอสทีที จีดีซี” พันธมิตรชั้นนำระดับโลกด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ เดินหน้าพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกภายใต้ความร่วมมือ  ตั้งเป้าเป็นศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก รองรับเทรนด์เศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้จะประกอบด้วย 2 อาคารโดยอาคารแรกจะมีพื้นที่เกือบ 30,000 ตารางเมตร สำหรับในเฟสแรกจะใช้งบประมาณกว่า 7 พันล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาองค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลางหลายแห่งเริ่มปรับตัวให้สอดรับกับโลกยุคแห่งดิจิทัล โดยมีการนำระบบดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้บริการโคโลเคชั่นที่มีความปลอดภัยด้านการเก็บรักษาข้อมูลขั้นสูง มีความสะดวก รวดเร็วและเชื่อถือได้เพิ่มมากขึ้น จึงมั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และ เอสทีที จีดีซี จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเติบโต และยังสะท้อนให้เห็นถึงการขยายขอบเขตความสามารถของ FPT ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เน้นย้ำความเป็นผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาอาคารเพื่อการอุตสาหกรรมไปจนถึงการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ โดยดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกนี้ จะตั้งอยู่ย่านรามคำแหง ซึ่งถือเป็นเขตเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ ผู้ใช้บริการข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีการเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่สำคัญ อาทิ ธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการธุรกิจคลาวด์ รวมถึงกลุ่มประกอบการไทยและบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย”

จากรายงานล่าสุด คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562-2565 จะมีการจับจ่ายที่เกี่ยวกับด้านไอทีและดิจิทัลประมาณ 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ1 สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการใช้บริการโคโลเคชั่นที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการในปัจจุบันยังมองหาดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีทั้งความปลอดภัยสูง มีความยืดหยุ่นและประหยัดพลังงาน ผลักดันให้ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์คอมพิวติ้งของประเทศไทยเติบโตสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ของทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2570 เศรษฐกิจดิจิทัลจะสร้างรายได้เกือบหนึ่งในสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (GDP)2 และคาดว่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของอาเซียนในปี 2567 จะมีมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตขึ้น 16.1% จากปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ3”

มร.บรูโน่ โลเปซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ หรือ “STT GDC” กล่าวว่า “เราจะผนึกความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกของ STT GDC และประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยาวนานในตลาดประเทศไทยของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เพื่อพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกภายใต้ความร่วมมือบนพื้นที่ยุทธศาตร์ย่านรามคำแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเราจะนำเทคโนโลยีล่าสุดและการออกแบบอาคารแบบยั่งยืน (Sustainable) มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงสุด ซึ่งจะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก รวมถึงองค์กรที่มองหาโอกาสทางธุรกิจจากการเติบโตของยุคเศรษฐกิจดิจิทัล”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ