นางเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจกาแฟในประเทศไทย สตาร์บัคส์มุ่งมั่นในการส่งมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ที่ลูกค้าคุ้นเคยและชื่นชอบมาโดยตลอด การเปิดบริการบริการเดลิเวอรีในประเทศไทยนั้นนับเป็นอีกก้าวหนึ่งของสตาร์บัคส์ในการขยายการให้บริการและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ล่าสุด สตาร์บัคส์ จึงได้ร่วมมือกับแกร็บ ประเทศไทย ผู้นำด้านซูเปอร์แอพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านบริการแกร็บฟู้ด (GrabFood) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและส่งมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ที่แสนสะดวก ให้กับทั้งลูกค้าประจำของสตาร์บัคส์และผู้ใช้งานแกร็บ
“ปัจจุบันในประเทศไทยผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความนิยมในแพลตฟอร์มบริการส่งอาหารเช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ความเชี่ยวชาญในด้านบริการส่งอาหารและเครื่องดื่มของแกร็บจะช่วยให้สตาร์บัคส์สามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่หันมานิยมใช้บริการส่งอาหารบนแอปพลิเคชันมากขึ้น โดยลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถสั่งเครื่องดื่มแก้วโปรดจากร้านสตาร์บัคส์กว่า 75 สาขาผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ (Grab) ได้แล้ว”
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นตลาดที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สตาร์บัคส์ได้นำเสนอกลยุทธ์ดิจิทัล เปิดบริการเดลิเวอรีผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการกับแกร็บ โดยก่อนหน้านี้ สตาร์บัคส์ได้เปิดบริการเดลิเวอรีในประเทศสิงคโปร์ไปแล้วและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
ด้าน นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน แกร็บฟู้ดขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดด้านสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันอันดับ 1 ของผู้บริโภคในไทย โดยมียอดสั่งอาหารกว่า 4 ล้านออร์เดอร์ภายใน 4 เดือนแรกของปี 2562 โดยผลการวิจัยการตลาดจากกันตาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แกร็บฟู้ดคือผู้ให้บริการส่งอาหารอันดับ 1 ของผู้บริโภคชาวไทย โดยผู้บริโภคถึง 44% ได้โหวตว่าแกร็บฟู้ดเป็นแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้บ่อยที่สุด ทั้งนี้ สืบเนื่องจากความสำเร็จในการให้บริการในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ในปีที่ผ่านมา แกร็บฟู้ดจะขยายบริการไปอีกอย่างน้อย 6 เมืองทั่วประเทศไทยภายในปีนี้ และส่งมอบบริการส่งอาหารที่สะดวกให้กับผู้บริโภคชาวไทยในกลุ่มที่กว้างขึ้น