การบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเปรียบเสมือนการผจญภัย ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ หรือมีรากฐานมายาวนานเท่าใดแล้วก็ตาม เจ้าของหรือผู้บริหารต้องพบกับความท้าทายนับไม่ถ้วนก่อนจะพบกับความสำเร็จ โดยธุรกิจกลุ่มเอสเอ็มอี จำเป็นต้องประหยัดต้นทุนและบริหารค่าใช้จ่ายประจำให้ดี เพราะถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ การพิมพ์งานเป็นอีกค่าใช้จ่ายประจำของทุกสำนักงาน ยิ่งถ้าเป็นสำนักงานที่มีงานยุ่งตลอดเวลาก็จะมีการสั่งพิมพ์งานตลอดทั้งวัน ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แต่ละครั้งที่ดูเหมือนจะน้อยนิดแต่พอรวมกันทั้งปีอาจจะสูงจนน่าตกใจ ดังนั้นการเลือกพรินเตอร์ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ควรพิจารณาอย่างจริงจัง
บ่อยครั้งเจ้าของธุรกิจไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกพรินเตอร์ประเภทไหนดี ระหว่างเลเซอร์พรินเตอร์กับอิงค์เจ็ท พรินเตอร์ ที่ผ่านมาเลเซอร์พรินเตอร์ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะผู้บริโภคมองว่าเลเซอร์พรินเตอร์พิมพ์งานได้เร็วและต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นต่ำกว่า แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีของพรินเตอร์อิงค์เจ็ทก้าวหน้าไปไกลมาก จนทำให้ฝ่ายจัดซื้อของบริษัทส่วนใหญ่หันกลับมาพิจารณาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท และนี่คือ 5 เหตุผลหลักว่าทำไมอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ถึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกำลังแซงหน้าเลเซอร์พรินเตอร์
1. เพิ่มประสิทธิผล : อิงค์เจ็ทพรินเตอร์รุ่นเก่ามีข้อด้อยอยู่ตรงที่หมึกหมดเร็ว ทำให้ต้องคอยเปลี่ยนตลับหมึกบ่อย แถมการเปลี่ยนแต่ละครั้งก็เปลืองเวลา รวมถึงสร้างความยุ่งยากในการใช้งาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายเรื่องหมึกอีกด้วย เอปสันในฐานะผู้นำด้านการผลิตและการจำหน่ายอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ เล็งเห็นถึงปัญหาและความต้องการใช้งาน จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์หมึกขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาในการเปลี่ยนตลับหมึก ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการพรินเตอร์เลยทีเดียว
ที่สำคัญ เมื่อถึงเวลาต้องเติมหมึกก็สามารถทำได้อย่างสะดวกง่ายดาย ด้วยการเติมหมึกจากขวดเข้าสู่ระบบแท็งค์ ซึ่งล่าสุดเอปสันได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับพรินเตอร์ระบบแท็งค์ว่าเป็น EcoTank หรือ Economical Tank โดยออกแบบให้ชุดแท็งค์หมึกอยู่ภายในตัวเครื่องและเป็นแบบ Spill-Free ที่ใช้แรงดันภายในขวด เพื่อช่วยป้องกันการหกของหมึก ตัดปัญหาหมึกหกเลอะระหว่างเติมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งกว่านั้นยังช่วยป้องกันปัญหาการเติมหมึกผิดสีด้วยจุกขวดที่ได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างเฉพาะสีอีกด้วย นอกจากนี้ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ยังมีส่วนยกระดับประสิทธิผลในด้านต่างๆ เช่น สามารถพิมพ์งานออกมาได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่แผ่นแรก เพราะไม่จำเป็นต้องรอวอร์มเครื่องก่อน
อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์รุ่นใหม่ของเอปสันใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่ง ในหัวพิมพ์ที่เร็วที่สุดในโลก พิมพ์งานได้เร็วถึง 15 ภาพต่อนาทีในโหมดการพิมพ์มาตรฐาน หรือ 33 หน้าต่อนาทีสำหรับโหมดการพิมพ์แบบร่าง แถมยังมีคุณสมบัติควบคุมขนาดละอองหมึกได้หลายขนาดและหยดน้ำหมึกได้อย่างแม่นยำ จนสามารถพิมพ์ผลงานคุณภาพสูงได้ทุกครั้งที่ต้องการ
2. ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี : พรินเตอร์ตระกูล L-Series ของเอปสันถือเป็นพรินเตอร์แท็งค์แท้รุ่นแรกของโลกที่สามารถพิมพ์ได้ 2 ด้าน หรือดูเพล็กซ์แบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดต้นทุนให้กับผู้ใช้งาน ลดการสิ้นเปลืองกระดาษพิมพ์งานได้อย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ เอปสันอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ยังไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการพิมพ์ จึงใช้ไฟน้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์มากถึง 97% ส่งผลให้ช่วยประหยัดต้นทุนค่าไฟ อีกทั้งชิ้นส่วนในตัวเครื่องน้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ หมายถึงการบำรุงรักษาที่น้อยกว่าและช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
3. คุณภาพพิมพ์ที่ดีเยี่ยม : อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์ สามารถพิมพ์งานสีในคุณภาพที่ดีกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ รวมถึงการพิมพ์บนกระดาษที่มีความมันหรือกระดาษพิมพ์ที่เครื่องพิมพ์เลเซอร์ไม่สามารถพิมพ์ได้ ส่วนการพิมพ์ขาวดำ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ก็สร้างสรรค์ผลงานได้ไม่แพ้เลเซอร์พรินเตอร์ ซึ่งให้งานพิมพ์ที่คมชัด ทั้งยังไม่มีปัญหาหมึกเลอะเปรอะเปื้อน
4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : ปัจจุบันมีผู้ที่เริ่มเห็น ความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในด้านของเครื่องพิมพ์ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ ตั้งแต่เรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ต่ำกว่า รวมไปถึงการที่เลเซอร์พรินเตอร์มีฝุ่นละอองจากผงหมึกลอยออกมาจากตัวเครื่องขณะใช้งาน ซึ่งฝุ่งละอองเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นอกจากนี้การปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ก็อยู่ในระดับที่น้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์อย่างมาก
5. ครบเครื่องด้านฟังก์ชั่นใช้งาน : อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์แท้จากเอปสัน มีฟังก์ชั่นที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ ถ่ายสำเนาเอกสาร หรือสแกนงาน ทั้งยังมีฟังก์ชั่นพิมพ์ 2 หน้า (ดูเพล็กซ์) แบบอัตโนมัติ และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้ใช้ทำงานได้สะดวกรวดเร็ว ได้คุณภาพงานพิมพ์ที่ดี ช่วยประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น WiFi Direct ช่วยให้ผู้ใช้สั่งพิมพ์งานจากสมาร์ทดีไวซ์ รวมทั้งยังแชร์ข้อมูลได้อย่างสะดวก สบาย สามารถเชื่อมต่อพรินเตอร์กับอุปกรณ์ได้มากถึง 4 เครื่อง โดยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยเราเตอร์
โดยสรุปแล้ว ด้วยเทคโนโลยีอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ พัฒนาไปอย่างมากจากในอดีต สามารถตอบรับทุกความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้อย่างลงตัว ทั้งพิมพ์งานได้เร็ว ต้นทุนต่ำ คุณภาพงานพิมพ์ที่ดีเยี่ยม พิมพ์ได้บนกระดาษหลายประเภท แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
