ที่ประชุมรัฐมนตรีคลัง และผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม จี20 เห็นพ้องดำเนินมาตรการส่งเสริมการเติบ โตทางเศรษฐกิจแทนมาตรการรัดเข็ม ขัด เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ พร้อมให้ความสำคัญกับ การสร้างงาน

รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง (แบงก์ชาติ) กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและประเทศเศรษฐกิจใหม่ชั้นนำ 20 ประเทศ หรือกลุ่มจี20 ที่ประชุมกันที่ อาคารเอ็กซ์ฮิบิชั่น ฮอลล์ ใกล้กับพระราช วังเครมลิน ทำเนียบรัฐบาลรัสเซียในกรุง มอสโกเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ออก แถลงการณ์ร่วมเพื่อกำหนดทิศทางดำเนิน นโยบายทางเศรษฐกิจร่วมกัน เรียกร้อง ให้สมาชิกหันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน โดยลดลำดับความสำคัญของมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อปรับภาวการณ์ทางการ คลังของแต่ละประเทศให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมลง หลังจากที่หลายประเทศต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างหนัก เมื่อปีที่ผ่านมา

โดยที่ประชุมมีมติเป็นมติเอกฉันท์ ซึ่งไม่ค่อยปรากฏบ่อยครั้งนักในการประ ชุมของจี20 เกิดขึ้นหลังจากการร่วมกัน ประเมินความเสี่ยงในด้านต่างๆ และการจัดลำดับความสำคัญเชิงนโยบายที่เหมาะสมของแต่ละประเทศ ที่ประชุมเชื่อว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศต้องดำเนินการ อย่างเต็มที่เพื่อสร้างงานและกระตุ้นให้ความต้องการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นพร้อม กันนั้นก็เร่งสร้างผลิตภาพให้กับระบบเศรษฐกิจของตนเอง พร้อมยังเรียกร้องให้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติการ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว ให้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในระดับผู้นำประเทศ ในระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในรัสเซีย

โดย นางคริสตีน ลาร์การ์ด กรรม การผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวยอมรับต่อที่ ประชุมว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในเวลานี้นอกจากจะเปราะบางแล้วยังไม่สม่ำเสมอเท่าเทียมในแต่ละภูมิภาค ในเวลาเดียวกันอัตราว่างงานก็ยังสูงเกินไป ในบางประเทศ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาและ ญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณในทางที่ดีออกมาว่า การฟื้นตัวมีแนวโน้มจะเป็นการขยายตัวที่ยั่งยืน แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจในยูโรโซน หรือบรรดาประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรร่วมกัน กลับซบเซา แม้แต่จีนอีกก็แสดงให้เห็นถึงระดับการขยายตัวของการผลิตที่ลดต่ำลง

ด้าน อันโตน สิลัวนอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซีย กล่าวว่า มาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ชาติสมาชิกจี20 ตัดสินใจที่จะไม่กำหนดเป้าการลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณภายในปี 2559 ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯรายหนึ่ง ซึ่งมองว่าการถกเถียงเรื่องการสร้างการเติบโตและการรัดเข็มขัดที่มีมายาวนานนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมยืนยันว่าที่ประชุมยอม รับในความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้มาตรการ ผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี)

อย่างไรก็ตาม บรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มจี20 ย้ำชัดว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจใดๆ จะต้องกระทำอย่างระมัด ระวัง เพื่อป้องกันความผันผวนในตลาด การเงิน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการกล่าวถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่ง ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณชะลอมาตรการ (คิวอี) รอบที่ 3 จนนำไปสู่ความผันผวนอย่างหนักในตลาดการเงิน รวมทั้งภาวะเงินทุนไหลออกจากบรรดาชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่