ชินโสะ อาเบะ ประกาศเดินหน้า นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจต่อ หลังพรรค รัฐบาลญี่ปุ่นชนะเลือกตั้งสภาสูงถล่มทลาย ด้านประธานสมาพันธ์ธุรกิจ ญี่ปุ่น เชื่อนโยบายเศรษฐกิจ หนุนพรรค "อาเบะ" คว้าชัยศึกเลือกตั้งแต่ผลโพลเกียวโด สวนทาง คะแนนนิยมนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นลดลง

พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ รวมทั้งพรรคนิว โคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ชนะการเลือกตั้งสภาสูงอย่างถล่ม ทลายเมื่ออาทิตย์ (22 ก.ค.) ที่ผ่านมา โดย คว้าเก้าอี้ได้ 76 ที่นั่งจากที่ให้ชิง 121 ที่นั่ง ขณะที่สภาสูงมีจำนวนเก้าอี้ทั้งหมด 242 ที่นั่ง ชัยชนะของนายอาเบะทำให้พรรครัฐบาลสามารถครองอำนาจได้อย่างเด็ดขาดในรัฐสภาญี่ปุ่น หลังจากที่รัฐบาลได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างแล้วในขณะ นี้ และจะยุติภาวะชะงักงันในรัฐสภาที่ดำเนินมาร่วม 6 ปี จากภาวะที่พรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากในสภาสูง ซึ่งมักขัดขวางการดำเนินนโยบายของรัฐบาล

พรรคแอลดีพีของนายอาเบะได้แรง หนุนจากความหวังที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างของนายอาเบะ หรือเรียกว่า อาเบะโนมิกส์ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ และงบรายจ่ายของภาครัฐ จะช่วยหนุนการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจและทำให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวจากภาวะชะงักงันที่ดำเนินมานานหลายปี

ด้านนายกรัฐมนตรีอาเบะ แถลงว่า ชัยชนะจากการเลือกตั้ง ช่วยให้รัฐบาลมีความมั่นคงมากขึ้น เพราะเป็นครั้งแรกใน รอบ 6 ปีที่รัฐบาลครองเสียงข้างมากจาก ทั้ง 2 สภา ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้ ภาครัฐต้องเดินหน้านโยบายแก้ไขและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มกำลัง เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่า ความพยายามของรัฐบาลในเรื่องนี้ สามารถทำให้คุณภาพชีวิตของชาวญี่ปุ่นทุกคนดีขึ้นจริง

ด้าน นายฮิโรมาสะ โยเนคุระ ประธาน สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น กล่าวว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบเชิงรุก และการ ดำเนินการอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด รวมทั้งการผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นมา ได้ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัฐบาลสามารถใช้นโยบายที่มีความจำเป็นได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนโยบายการขยายตัว ขณะที่ชุมชนทางธุรกิจก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะเพิ่มการจ้างงานและการลงทุน

ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นภาษีการขายใน เดือนเม.ย.ปีหน้าตามที่รัฐบาลได้วางแผนไว้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับภาวะการคลังอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจจากสำนัก ข่าวเกียวโด ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันจันทร์ และวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาสิ้นสุดลง พบว่าคะแนนนิยม คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น ร่วงลงเหลือ 56.2% จาก 68.0% เมื่อเดือนมิ.ย. และยังพบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 39.8% รู้สึกยินดีที่พรรคอนุรักษนิยมหรือแอลดีพี ของนายอาเบะ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างขาดลอย ในขณะที่อีก 17.8% ไม่รู้สึกยินดีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

จากความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของบรรดาพรรคฝ่ายค้าน ผู้ตอบแบบสำรวจ 68.8% เห็นว่าควรมีการปรับการทำงานในพรรคเสียใหม่ ในขณะที่อีก 22.7% ชี้ว่า ไม่มีความจำเป็น

ขณะเดียวกัน แม้พรรคร่วมรัฐบาล ญี่ปุ่นชนะ แต่ผลการเลือกตั้งดังกล่าว ได้กลายเป็นแรงกดดันให้นายอาเบะ เร่งดำเนิน การปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่ท้าทายนายกรัฐมตรีของญี่ปุ่น