นาย ฌอง-พอล แอกง ประธานกรรมการและซีอีโอ ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี 2562 ลอรีอัล กรุ๊ป ยังคงรักษาจังหวะการเติบโตที่ต่อเนื่องมาจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ไว้ได้ ด้วยการทำยอดขายรวม 7.55 พันล้านยูโร เติบโตเพิ่มขึ้น 7.7% โดยกลุ่มธุรกิจที่ขับเคลื่อนเบื้องหลังการเติบโตที่ดีไตรมาสแรก นั่นคือแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง นอกจากนั้นยังรวมถึงกลุ่มสินค้าสกินแคร์ การเติบโตในเอเชีย อีคอมเมิร์ซ และธุรกิจค้าปลีกท่องเที่ยว
สำหรับแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงมีผลงานที่โดดเด่นในตลาดระดับบน นำโดย 4 แบรนด์ใหญ่ในเครืออย่าง ลังโคม อีฟ แซงต์ โลร็องต์ จิออร์จิโอ อาร์มานี และ คีลส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มียอดขายที่เพิ่มขึ้นสูงกว่า 15% อีกทั้งยังเติบโตอย่างมากในเอเชีย ขณะที่แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางก็ทำยอดขายเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก ส่วนยอดขายในแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับแผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพนับว่ามีความคืบหน้าในตลาดที่อยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในระดับภูมิภาคแล้ว ตลาดสำคัญอยู่ที่เอเชียแปซิฟิก ซึ่งกลายเป็นโซนอันดับแรกของบริษัทฯ ที่เติบโตไปในทิศทางที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่ตลาดจีนเท่านั้น แต่ยังเติบโตได้ดีในอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ด้วย ซึ่งโซนนี้ล้วนแล้วแต่ทำยอดขายทะยานขึ้นในอัตราเลขสองหลัก ในทางกลับกัน ยอดขายในไตรมาสแรกของอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกนั้นเติบโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่องทางอีคอมเมิร์ซและค้าปลีกท่องเที่ยว ยังคงเติบโตอย่างดีเยี่ยม โดยธุรกิจอีคอมเมิร์ซมียอดขายเพิ่มขึ้น 43.7% ขึ้นแท่นช่องทางขับเคลื่อนอันทรงพลังในทุกแผนกและภูมิภาค ส่วนธุรกิจค้าปลีกท่องเที่ยวยอดขายเพิ่มขึ้น 24.1%
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สรุปยอดขายไตรมาส 1 ปี 2562 เมื่อแบ่งตามแผนกธุรกิจ ประกอบด้วย 1. แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เติบโต +2.2% 2. แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค เติบโต +3.0% 3. แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เติบโต +14.2% ซึ่งทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในตลาดเฉพาะกลุ่มซึ่งมีความคึกคัก 4.แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทะยานขึ้นในอัตราเลขสองหลังที่ +13% ได้อีกไตรมาส
ส่วนสรุปยอดขายไตรมาส 1 ปี 2562 เมื่อแบ่งตามภูมิภาค ได้แก่ 1. ยุโรปตะวันตก มีอัตราการขยายตัว +1.1% ในตลาดที่ค่อนข้างจะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจักร 2.อเมริกาเหนือ มีอัตราการขยายตัว +1.2% และ 3.ตลาดใหม่ ประกอบไปด้วย เอเชียแปซิฟิก: อัตราการขยายตัวในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ +23.2% ซึ่งทุกแผนกมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะในแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงและแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ส่วนของแบรนด์นั้น อีฟ แซงต์ โลร็องต์ และ จิออร์จิโอ อาร์มานี รวมถึงแบรนด์สกินแคร์ระดับพรีเมี่ยมอื่นๆ มีการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุด สำหรับแบรนด์สไตล์นันดะ ซึ่งทางลอรีอัลได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อเดือนมิ.ย. 2561 นั้นได้เปิดตัวไปในตลาดจีน และกลายเป็นแบรนด์หลักที่เร่งการเติบโตให้กับแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค
ต่อมาที่ ตลาดละตินอเมริกา: อัตราการขยายตัวในละตินอเมริกาอยู่ที่ +4% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในบราซิล , ยุโรปตะวันออก: อัตราการขยายตัวในยุโรปตะวันออกอยู่ที่ +7.1% , แอฟริกาและตะวันออกกลาง: อัตราการขยายตัวในแอฟริกาและตะวันออกกลางอยู่ที่ -1.0% โดยตลาดในตะวันออกกลางยังคงมีความท้าทายอยู่มาก โดยเฉพาะในแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง