9 ขั้นวัดระดับชีวิต ต่อ 4 เทคนิคปรับสู่ความสำเร็จ

วันศุกร์ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

9 ขั้นวัดระดับชีวิต ต่อ 4 เทคนิคปรับสู่ความสำเร็จ


ผ่านกันไปแล้วสำหรับวันหยุดยาวที่ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยอย่าง “เทศกาลสงกรานต์” หลายคนคงได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และกลับไปบ้านเกิดเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องญาติผู้ใหญ่ กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา พอกลับมาสู่โลกความเป็นจริงของชีวิตทำงาน หลายคนคงรู้สึกหนักหัวตัวเบา แต่ถ้าคุณไม่รู้สึกแบบนั้น เพราะมีเงินเหลือพอถึงสิ้นเดือน นั่นแสดงว่าคุณวางแผนทางการเงินมาอย่างดี แต่สำหรับคนที่กำลังช็อตชักหน้าไม่ถึงหลัง แสดงว่าการเงินของคุณกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต หากเกิดปัญหาแบบนี้

นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างความสำเร็จด้วยมายด์เซ็ท มีคำแนะนำดีๆ มาช่วยให้คุณก้าวผ่านวิกฤตทางการเงินในครั้งนี้ เพราะทุกปัญหาล้วนมีทางออก แต่ก่อนที่จะไปแก้ไขปัญหา คุณต้องหันมาสำรวจตัวเองก่อนว่า ตอนนี้วิกฤตทางการเงินของคุณอยู่ในระดับไหน ด้วยการวัดระดับความสำเร็จเชิงเศรษฐกิจของชีวิตมนุษย์  9 ขั้น ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นที่เราเอาชีวิตยังไม่รอด นั่นคือ มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ ทุกเดือนยังคงติดลบ ต้องกู้หนี้ยืมสินมาหมุนเงิน จนคุณหัวหมุนไปด้วย

ขั้นที่ 2 แค่เอาชีวิตรอด รายได้กับรายจ่ายพอๆกัน ไม่มีเงินเหลือเก็บ มีภาระจากเหตุฉุกเฉินหรือค่าใช้จ่ายที่เป็นก้อนๆเมื่อไหร่ต้องหาหยิบยืมกันให้วุ่น ดอกเท่าไหร่ก็สู้ อย่างนี้เรียกว่า แค่เอาชีวิตรอด

ขั้นที่ 3 มีชีวิตระดับอยู่ดี มีรายได้มากกว่ารายจ่าย รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายเป็นก้อนได้และยังเหลือพอเก็บเข้าบัญชีออมทรัพย์บางส่วน

ขั้นที่ 4 อยู่แบบดีเยี่ยม มีเงินฝากในบัญชีรองรับค่าใช้จ่ายของครอบครัวจนสามารถหยุดงานได้ 6 ถึง 12 เดือน

ส่วนขั้นที่ 5-8  ไปจนถึงขั้นที่ 9  จะเป็นชีวิตระดับตำนาน ได้ช่วยเหลือสังคมแบบ บิล เกตส์ หรือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ คนพวกนี้คือระดับตำนานที่ไม่ต้องห่วงเรื่องรายได้และค่าใช้จ่ายอะไรอีกแล้ว วันๆคิดแต่จะช่วยสังคมอย่างเดียว

เมื่อวัดระดับชีวิตเรียบร้อย หากคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในขั้นที่ 1 ไม่ต้องกังวลจนปวดหัว มีวิธีแก้ไขได้ง่ายๆ ดังนี้  1.หารายได้พิเศษเพิ่ม จากเวลานอกเหนืองานประจำ เริ่มจากงานบริการ งานขายหรืองานที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของเรา    

2.ลดรายจ่าย รายจ่ายรายการไหนที่ยังเกินความจำเป็น ตัดออกให้หมด 3.หาแหล่งเงินกู้ที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาจ่ายหนี้เดิม อาจมาจากการรีไฟแนนซ์บ้านหรือการขอยืมจากเจ้านาย ซึ่งขึ้นกับความมีคุณค่าของตัวเราในองค์กร  4. เร่งพัฒนาตนและแสดงผลงานในหน้าที่ เพื่อให้ได้โบนัสตอนสิ้นปีสูงขึ้น ได้รับการปรับเงินเดือนที่มากขึ้นหรือได้รับการโปรโมท หรือไม่ก็ย้ายที่ทำงานใหม่ที่ให้เงินเดือนสูงขึ้น

จากข้อแนะนำดังกล่าว หากคุณสามารถเลือกปฏิบัติได้อย่างน้อย 2 ใน 4 ข้อนี้ คุณก็จะก้าวผ่านวิกฤตทางการเงินไปได้ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ ความคิดและความเชื่อของคุณว่าต้องทำได้ เพียงเท่านี้ "คุณก็จะสามารถหลุดพ้นจากภาวะ "เงินช็อต" ได้อย่างแน่นอน



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ