นาย คาซูกิ คามิยะ (Mr.Kazuki Kamiya) ผู้ก่อตั้ง บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเราได้เริ่มเข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถในปี 2560 ซึ่งได้มีเจ้าของรถยนต์สนใจร่วมเป็นสมาชิกกว่า 15,000 คัน เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีรถแล้วต้องการสร้างรายได้ ลูกค้าสามารถเลือกรถที่ต้องการจะลงสื่อโฆษณาได้ตามโปรดักส์ที่ต้องการนำเสนอให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความแตกต่างให้เกิดความโดดเด่น ด้วยการนำแอพพลิเคชั่น Flare มาใช้ โดยสามารถแทรคกิ้ง (Tracking) ติดตามจำนวนคนเข้าถึงโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ให้บริการ เพื่อตอบสนองลูกค้าในการเลือกซื้อสื่อโฆษณาผ่านบริษัท เราจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด (Toyota Tsusho (Thailand) Co.,Ltd.) ในการทำธุรกิจดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เราเล็งเห็นว่าในยุคที่สื่อโฆษณาต้องปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยใช้เวลาแต่ละวินาทีอย่างมีคุณค่า สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถจึงเป็นที่พบเห็นและเริ่มเข้ามามีบทบาทจึงได้รุกเข้าสู่ธุรกิจสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถ โดยจับจุดของผู้คนที่แต่ละวันต้องอยู่บนท้องถนนกันเป็นเวลานาน ต่อไปนี้ไม่ต้องหงุดหงิดกับช่วงเวลารถติด เพราะจะเปลี่ยนเป็นการสร้างรายได้ให้ตัวเอง ภายใต้คำนิยาม ‘ติด ขับ รับเงิน’ พร้อมทั้งเสริมด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในยุคที่โลกออนไลน์ ทวีความสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยการเป็นรายแรกที่มีแอพพลิเคชั่นติดตามและประเมินผลได้แบบเรียลไทม์ คาดอัตราการเติบโตในปี 2562 สูงขึ้น 10 เท่า จากในปีก่อน
“เมืองไทย มีปัญหารถติด เลยอยากจะเปลี่ยนสถานการณ์ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจากคนเครียด ๆ รถติดบนท้องถนน เปลี่ยนเป็นเงิน สร้างรายได้ โดยการเป็นมีเดียเคลื่อนที่ ซึ่งทุกคนที่มีรถส่วนตัวสามารถมาสมัครเป็นสมาชิกได้ และบริษัทได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Flare สามารถวัดผลได้แบบเรียลไทม์ ตอบโจทย์ลูกค้าที่มาเลือกซื้อสื่อผ่านบริษัท ได้เป็นอย่างดี โดยได้ใช้โปรแกรมอัลกอริทึม (Algorithm) ในการเก็บข้อมูลของสมาชิกผู้ขับ เชื่อมโยงกับ API ของ google map ในการตรวจวัดว่ามีคนดูโฆษณาเท่าไหร่ ซึ่งถือเป็นโปรแกรมที่แม่นยำ ทำให้ผู้ซื้อสื่อโฆษณาได้ประเมินผลแบบเรียลไทม์”
ผู้บริหารกล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ซื้อสื่อโฆษณาเคลื่อนที่กับ บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็จะได้รับความคุ้มค่าเพราะนอกจากเป็นสื่อโฆษณาที่เคลื่อนที่เข้าหากลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังสามารถวัดผลคนเห็นโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชั่น ที่บริษัทพัฒนาขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกรถที่อยากโฆษณาได้ตามต้องการ สามารถเลือกสถานที่การโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการวัดคนที่เห็นโฆษณา ทาง Flare ได้มีการนำหลักสถิติและระบบ Impressions (จำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาออกไป) มาคำนวณ เฉลี่ยการมองเห็นอยู่ที่ประมาณ 20,000 คน/วัน/คัน โดยค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อโฆษณาเริ่มต้น 6,000 บาท/เดือน
