“โทฟุซัง” จับกระแสฮอตหนังอเวนเจอร์ส ดึง“มาร์เวล” ดันยอด 3 เดือนโตพุ่ง50 %

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

“โทฟุซัง” จับกระแสฮอตหนังอเวนเจอร์ส ดึง“มาร์เวล” ดันยอด 3 เดือนโตพุ่ง50 %


นายสุรนาม พานิชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทฟุซัง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาเราได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเรามีแผนต้องการเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กเพิ่มขึ้น ด้วยแบรนด์รองคือ ซอยป๊อป ที่เพิ่งทำตลาดไม่นานนี้ เป็นแบรนด์ที่จับกลุ่มเป้าหมายเด็กโดยเฉพาะ โดยได้ร่วมมือกับ บริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ โทฟุซัง และซอยป๊อป กับคอลเลคชั่น “มาร์เวล คาวาอิ” และคอลเลคชั่น “ดิสนีย์ ซุม ซุม คริสต์มาส” เมื่อปีที่แล้ว โดยมียอดขายเพิ่ม 50% และปริมาณลูกค้าใหม่เพิ่ม 30% ซึ่งเมื่อแคมเปญจบลง การเติบโตก็เข้าสู่ปกติ เฉลี่ย 15-20%

สำหรับปีนี้ซึ่งนับเป็นการต่อยอดความสำเร็จ ของโทฟุซัง ให้ได้โชว์ ศักยภาพคู่แบรนด์ระดับโลก อีกครั้งด้วยการ เปิดตัวผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นใหม่กับ มาร์เวล ที่โทฟุซัง ได้นำตัวละครของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล มาสร้างสรรค์บนบรรจุภัณฑ์ของนมถั่วเหลืองพาสเจอร์ไรซ์ โทฟุซัง กับ 3 รสชาติ ได้แก่ ไอรอนแมน และกัปตัน มาร์เวล รสออริจินัล, แบล็ค วิโดว์ และกัปตัน อเมริกา รสหวานน้อย, และแอนท์แมน รสเม็ดแมงลัก และคาดว่าจะสามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ให้โทฟุซังได้ถึง 50 % ส่วนซอยป๊อปเติบโต 30% ภายในระยะเวลา 3 เดือน

ผู้บริหาร  กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดนมถั่วเหลืองในไทยทั้งหมดมีประมาณ 15,000 ล้านบาท มีผู้เล่นรายใหญ่ 2-3 รายที่ครองตลาด โดยที่แบรนด์โทฟุซังมีส่วนแบ่งในภาพรวมแค่ 3-4% เท่านั้น แต่หากมองในเซกเมนต์นมถั่วเหลืองพาสเจอไรซ์แล้ว โทฟุซังเป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 68% โดยปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ไว้ที่ 600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 400 ล้านบาท เนื่องมาจากแผนการลงทุนปีนี้ บริษัทจะขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง หลังจากที่กำลังการผลิตจากโรงงานเดิมพื้นที่ 15 ไร่ ที่ลงทุนในเฟสที่ 2 จะเดินเครื่องผลิตได้ประมาณกลางปีนี้ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 400,000 ขวดต่อวัน จากเดิมเฟสที่ 1 มีกำลังผลิต 200,000 ขวดต่อวัน ด้วยงบลงทุนเฟสที่ 2 ประมาณ 100 กว่าล้านบาท  

เราวางแผนการทำตลาดในประเทศนั้นจะขยายตลาดช่องทางฟูดเซอร์วิสมากขึ้นที่ขณะนี้มีสัดส่วนประมาณไม่ถึง 10% และมีลูกค้ารายหลักอยู่ที่ อาทิ โรงพยาบาล โรงแรม และร้านอาหารที่เป็นเชนอีกหลายราย เป็นต้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเจรจากับโรงแรมของไทยอีก 1 รายใหญ่ รวมทั้งร้านอาหารอื่นๆ คาดว่าปีนี้จะเพิ่มอีกประมาณ 10 รายที่เป็นเชน ส่วนช่องทางหลักเดิมคือ โมเดิร์นเทรดมีความแข็งแกร่งและครอบคลุมอยู่แล้ว แต่จะขยายในแง่ของสินค้าและจำนวนสาขามากกว่า”

ทั้งนี้ ในส่วนตลาดต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ที่สนใจในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นต้น โดยจะทำการแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ จากเดิมที่มีแล้ว 2 ตลาด คือ ที่ดูไบ กับที่จีน (เริ่มนำร่อที่เซี่ยงไฮ้ กับกว่างโจว โดยวางขายในโมเดิร์นเทรดใหญ่ ทั้งลอว์สัน 7-11 เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมีประมาณ 5% เท่านั้น ตั้งเป้าหมายภายในช่วง 3 ปีนี้สัดส่วนต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 15% ขณะที่สัดส่วนรายได้ในประเทศปัจจุบันมี 95%



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ