Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
"โตเกียว" ครองแชมป์ ค่าครองชีพแพงบันลือโลก / "แอปเปิล" แชมป์ตราสัญลักษณ์มูลค่าสูงที่สุดในโลก
"โตเกียว" ครองแชมป์ ค่าครองชีพแพงบันลือโลก / "แอปเปิล" แชมป์ตราสัญลักษณ์มูลค่าสูงที่สุดในโลก
วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ต้นทุนชีวิตที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย แต่หากอาศัยเหตุปัจจัยจากราคากาแฟมาเป็นตัวชี้วัดแล้ว จะเห็นชัดว่าเมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เป็นเมืองที่มีต้นทุนชีวิตหรือค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับปี 2556
รายงานการสำรวจภาวะค่าครองชีพของค่ายเมอร์เซอร์ ซึ่งอาศัยระดับราคากาแฟเป็นดัชนีชี้วัดพบว่าในปีนี้เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย จัดเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก เนื่องจากราคากาแฟที่นั่นมีค่าเฉลี่ยแก้วละ 8.29 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 250 บาท
เมืองที่มีค่าครองชีพแพงเป็นอันดับ 2 ของโลก คือโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 6.98 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 210 บาท
เมืองที่มีค่าครองชีพแพงเป็นอันดับ 3 ของโลกคือเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 6.52 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 195 บาท
เมืองที่มีค่าครองชีพแพงเป็นอันดับ 4 ของโลกคือ ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 5.98 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 180 บาท
เมืองที่มีค่าครองชีพแพงเป็นอันดับ 5 ของโลกคือ ฮ่องกง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 5.67 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 170 บาท
ในทำนองเดียวกันทางค่ายไอเอ็มดี ก็มีรายงานผลการสำรวจขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ ในรอบปีนี้ โดยยกย่องให้สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
เหตุปัจจัยที่สนับสนุนให้สหรัฐอเมริกา ได้รับการยกย่องเป็นประเทศที่มีความเป็นเลิศด้านขีดความสามารถในการแข่งขันได้แก่ความสะดวกสบายในการให้บริการทางการเงิน ความอุดมสมบูรณ์ด้วยงานวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ และทิศทางแนวโน้มที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจ
อันดับที่ 2 ของประเทศที่ได้รับยกย่องในด้านความเป็นเลิศของขีดความสามารถในการแข่งขัน คือ สวิตเซอร์แลนด์
ปัจจัยสนับสนุนความเป็นเลิศด้านการแข่งขันของสวิตเซอร์แลนด์ ได้แก่ความโปร่งใสในระบบธุรกิจ ความมีวินัยทางการคลัง และความมีเสถียรภาพในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล
อันดับที่ 3 ของประเทศที่ได้รับยกย่องในความเป็นเลิศด้านการแข่งขัน คือ ฮ่องกง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างอัตราภาษีที่มีความย่อมเยาว์ ระบบการขนส่งทางทะเลที่ดี และมีความสะดวกสบายในการให้บริการของภาคการเงิน
อันดับที่ 4 ของประเทศที่ได้รับยกย่องในความเป็นเลิศด้านการแข่งขัน คือ สวีเดน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากคุณภาพของกำลังแรงงานที่ดี ระบบกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ โครงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ที่ดี และระบบการเมืองที่มั่นคง
อันดับที่ 5 ของประเทศที่ได้รับยกย่องในความเป็นเลิศด้านการแข่งขัน คือ สิงคโปร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากระบบการเมืองที่มั่นคง ระบบโครงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่ดี และระบบกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ
ข้างฝ่ายค่าย "ดับบลิวพีพีแอนด์มิลล์วาร์ด บราวน์" ก็มีการเปิดเผยรายงานผลการสำรวจมูลค่าตราสัญลักษณ์สินค้าประจำปี 2556 โดยระบุว่า "แอปเปิล" คือตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าสูงลิบลิ่วถึง 185,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก คือ "กูเกิล" มีมูลค่าอยู่ที่ 114,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก คือ "ไอบีเอ็ม" มีมูลค่าอยู่ที่ 113,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก คือ "แมคโดนัลด์" มีมูลค่าอยู่ที่ 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก คือ "โคคา-โคล่า" มีมูลค่าอยู่ที่ 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก คือ "เอทีแอนด์ที" มีมูลค่าอยู่ที่ 76,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 7 ของ โลก คือ "ไมโครซอฟท์" มีมูลค่าอยู่ที่ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 8 ของ โลก คือ "มาร์ลโบโร" มีมูลค่าอยู่ที่ 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 9ของโลก คือ "วีซ่า" มีมูลค่าอยู่ที่ 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปิดท้ายตราสัญลักษณ์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก คือ "ไชน่าโมบายล์" มีมูลค่าอยู่ที่ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
พินิจพิจารณาแล้วจะเห็นชัดเจนว่า 9 ใน 10 ตราสัญลักษณ์สินค้าที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกล้วนถือสัญชาติอเมริกันทั้งสิ้น จะมีแทรกเป็นยาดำเข้าไปเพียงแค่รายเดียวคือไชน่าโมบายล์ แห่งประเทศจีนเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ