“จีเอ็มเอ็ม มิวสิค” ปรับแผนรับมือ ดิจิตอลดิสรัปชั่น ทำสถิติโต 22% ลั่น ปีนี้เน้น 5 กลยุทธ์โตต่อเนื่อง

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562

“จีเอ็มเอ็ม มิวสิค” ปรับแผนรับมือ ดิจิตอลดิสรัปชั่น  ทำสถิติโต 22% ลั่น ปีนี้เน้น 5 กลยุทธ์โตต่อเนื่อง


นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการเปลี่ยนแปลงของโลกมีผลกระทบไปทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ต้องปรับตัวอย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจเพลงซึ่งว่ากันว่าหลังการเข้ามาของการสตรีมมิ่งและออนไลน์แพลตฟอร์ม ธุรกิจเพลงได้รับผลกระทบหนักเหมือนกันทั่วโลก แต่สำหรับ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กลับสามารถปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าจะเป็นการยืนหยัดสู้กับ Disruption (ดิสรัปชั่น) ได้อย่างมั่นคง ส่งผลให้ภาพรวมผลงานของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ในปี 2561 ยังคงสร้างรายรับรวมเป็นเงิน 3,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2560 ที่มีรายรับรวมเป็นเงิน 3,061 ล้านบาท เติบโตขึ้น 22% เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจ Digital (ดิจิทัล) 37% ซึ่งถ้าเจาะลึกเป็นธุรกิจ Digital Platform (ดิจิทัล แพลตฟอร์ม) จะเติบโตสูงถึง 83% ตามมาด้วยธุรกิจ Showbiz (โชว์บิซ) ที่เติบโตสูงถึง 113% ธุรกิจลิขสิทธิ์      ที่เติบโต 19% ธุรกิจบริหารศิลปินและงานจ้างเติบโตขึ้น 10% และธุรกิจโรงเรียนดนตรีเติบโตขึ้น 12% ทั้งนี้ 3 ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้แก่ ธุรกิจงานจ้างและสปอนเซอร์ชิปมีสัดส่วนรายได้ที่ 40% ธุรกิจ Digital (ดิจิทัล) 25% และธุรกิจ Showbiz (โชว์บิซ) 15%

การเติบโตของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ยังรวมถึงความสำเร็จในการทำคอนเทนต์ผ่านผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อขยายช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยปัจจุบันในกลุ่ม VDO Content (วิดีโอคอนเทนต์) จะอยู่ที่ Youtube (ยูทูป) เป็นหลัก จึงทำให้จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ครองอันดับ 1 ของมิวสิคแชนแนล ที่มียอดวิวกว่า 15,000 ล้านวิว เติบโตเฉลี่ยที่ 29% และมีผู้ติดตามมากกว่า 53 ล้าน Subscribers (ซับสไครเบอร์) เติบโตขึ้น 20 ล้าน Subscribers (ซับสไครเบอร์) หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้นเฉลี่ยที่ 88% โดยจีเอ็มเอ็ม มิวสิค มียอด Watch Time (วอทช์ไทม์) ใน Youtube (ยูทูป) เติบโตขึ้น65,000 ล้านนาที คิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้นเฉลี่ยที่ 37%

สำหรับเป้าหมายในปี 2562 จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายรับไม่ต่ำ กว่า 2 หลัก หรืออย่างน้อย 10% หรือมีรายได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ ระยะยาว เน้นกลยุทธ์สำคัญ 5 ส่วน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ได้แก่ 1.Hit Song คือ การสร้างเพลงใหม่มากกว่า 500 เพลงของศิลปิน 2.Original Content คือ การสร้างคอนเทนต์ที่พิเศษ และ Exclusive ครอบคลุมแนวเพลงทุกประเภท ทั้งป็อป ร็อก ลูกทุ่ง อินดี้ เพื่อนำไปสร้างสรรค์และต่อยอดในธุรกิจดิจิตอลแพลต ฟอร์มของพันธมิตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE TV, AIS, JOOX

3.Showbiz & Merchandising คือ ยุทธศาสตร์ที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจ Showbiz ไม่ว่าจะเป็น มิวสิค เฟสติวัล และคอนเสิร์ตรูปแบบต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นในทุกรูปแบบครอบคลุม 4.Right Management คือ การทำธุรกิจด้านลิขสิทธิ์ ในรูปแบบการ Service กับธุรกิจต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะคืนรายได้กลับสู่คนเบื้องหลังและเบื้องหน้า จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จึงได้จับมือร่วมกับ Platform Facebook ในเรื่องสิทธิ์การใช้เพลงบนแพลตฟอร์ม เพื่อสนับสนุนให้ User ใช้เพลงในการประกอบคอนเทนต์ของ User ได้เองอย่างถูกลิขสิทธิ์ และ 5.Online Content เดินหน้ารุกตลาดออน ไลน์คอนเทนต์เต็มตัวเพื่อขยายฐานลูกค้า.



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ