นาย ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดรวมน้ำดื่มบรรจุขวดในไทยยังคงมีการแข่งขันกันดุเดือดในเรื่องของราคามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่องทางโมเดิร์นเทรด ที่มีขนาดบรรจุ 600 มิลลิลิตร จำนวน 12 ขวด ขายกันแพคละ 48-49 บาท เราคาดว่าการใช้กลยุทธิ์ดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง และในส่วนของน้ำดื่มสิงห์เองเราไม่สามารถปรับราคาลงไปเพื่อไปแข่งขันด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวได้
ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญเรื่องการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อเป็นจุดแข็งของแบรนด์ในการสื่อสารสิ่งที่ดีเพื่อผู้บริโภคมากกว่าจึงได้เปิดตัวเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ “Smart Micro Filter” ที่มีประสิทธิภาพและความละเอียดสูง สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย สิ่งสกปรก ที่ปะปนมากับน้ำออกไป แต่คงไว้ซึ่งแร่ธาตุตามธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มาใช้ในกระบวนการผลิตนี้กับสินค้าในโรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อฉีกหนีคู่แข่ง
พร้อมกันนี้ ล่าสุด บริษัททุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 200 ล้านบาท เพื่อจัดแคมเปญการตลาด “ดื่ม..สิ่งที่ใช้ให้ตัวเอง” ผ่านสื่อแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ผ่านพรีเซ็นเตอร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ และยังสานต่อกิจกรรมการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่น รวมทั้งยังคงทำตลาดน้ำดื่มขนาด 330 มิลลิลิตร ลายการ์ตูนมายลิตเติ้ลโพนี่ รวมถึงการเป็นสปอนเซอร์กิจกรรม Disney On Ice จับกลุ่มเป้าหมายเด็กอย่างต่อเนื่องเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
สำหรับภาพรวมตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด (PET+GLASS) ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 (ย้อนหลัง 1 ปี) ในเชิงมีมูลค่าประมาณ 36,000 ล้านบาท เชิงปริมาณรวม 3,300 ล้านลิตร เติบโต 9.3% แบ่งตามบรรจุภัณฑ์แบบขวดพีอีที(PET) มูลค่า 34,200 ล้านบาท เชิงปริมาณรวม 3,130 ล้านลิตร หรือคิดเป็นสัดส่วน 95% เติบโต 10% แบบขวดแก้ว(GLASS) มูลค่า 1,800 ล้านบาท เชิงปริมาณรวม 170 ล้านลิตร คิดเป็นสัดส่วน 5%
ทั้งนี้ น้ำดื่มสิงห์ยังครองความเป็นเบอร์ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 21% เพิ่มขึ้น 10% ตามด้วยคริสตัล 20.6% เนสท์เล่ 15.2% น้ำทิพย์ 8.3% ช้าง 2.4% และอควาฟิน่า 1.5% สำหรับการรุกตลาดน้ำดื่มในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรวมเติบโตประมาณ 20% โดยจะมีแชร์ในเพิ่มขึ้นและเป็นผู้นำตลาดที่ 23%
