ตลาดเครื่องดื่มเมืองจีนกำลังโปรยมนต์เสน่ห์ดึงดูด การลงทุนของค่ายกาแฟยักษ์ใหญ่ระดับโลกเฉกเช่น "สตาร์บัคส์" อย่างรุนแรงเข้าขั้นถอนตัวไม่ขึ้น

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สตาร์บัคส์ให้ความสำคัญอย่างสูงแก่ตลาดเครื่องดื่มเมืองจีน เป็นผลสืบเนื่องมาจากผลประกอบการงวดไตรมาสล่าสุดที่สิ้นสุดลงไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บ่งชี้ว่ารายได้จากเครือข่ายสาขาในตลาดเอเชียแปซิฟิกมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดถึงร้อยละ 30 โดยที่อัตราการเติบโตของรายได้ที่ว่านี้มา จากยอดขายในตลาดจีนเป็นส่วนใหญ่

ปฏิกิริยาการต้อนรับของบรรดาคอกาแฟในเมืองจีน ต่อกาแฟสตาร์บัคส์ได้สร้างความคาดหวังอย่างสูงแก่คณะผู้บริหารของสตาร์บัคส์ เนื่องจากสตาร์บัคส์เริ่มเปิดดำเนินกิจการร้านกาแฟแห่งแรกในเมืองจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2542 และค่อยๆ ขยับขยายสาขาเพิ่มเติมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ณ สิ้นปี 2555 สตาร์บัคส์มีเครือข่ายสาขากระจายอยู่ตามหัวเมืองสำคัญทั่วเมืองจีนเป็นจำนวนรวมกันถึง 500 แห่ง

ในรอบปี 2556 นี้ สตาร์บัคส์หมายมั่นปั้นมือที่จะขยายเครือข่ายสาขาเพิ่มเติมขึ้นอีก 500 แห่งให้ครบ 1,000 สาขา โดยเน้นความสำคัญไปที่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เฉิงตู และเสฉวน

ภายใต้แผนรุกตลาดกาแฟเมืองจีนของสตาร์บัคส์ มีการคาดหมายล่วงหน้าว่าจีนจะเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 ของสตาร์บัคส์ แซงหน้าตลาดแคนาดา และจะเป็นรองแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ข้อมูลการศึกษาวิจัยตลาดกาแฟของ "ยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล" ดูจะสนับสนุนแผนการตลาดของสตาร์บัคส์ได้เป็นอย่างดี

สาระสำคัญของข้อมูลจาก "ยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล" ชี้ชัดว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดค้าปลีกกาแฟในจีนที่มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 10 สูงกว่าอัตราการขยายตัวในฮ่องกง และญี่ปุ่น ตลอดจนอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของตลาดค้าปลีกกาแฟโลกที่มีแค่ร้อยละ 3 ถือเป็นอนาคตที่สดใสอย่างมากสำหรับตลาดกาแฟ

ยิ่งไปกว่านั้น "ยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล" ยังสะท้อนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคกาแฟในจีน เปรียบเทียบกับพฤติกรรมการบริโภคกาแฟโดยทั่วไป ซึ่งระบุว่าคนจีนปัจจุบันยังมีอัตราการดื่มกาแฟอยู่ในระดับต่ำมาก เพียงแค่ 2 แก้วต่อคนต่อปีเท่านั้น เทียบกับอัตราการดื่มกาแฟโดยเฉลี่ยของคนทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 134 แก้วต่อคนต่อปี

ในทำนองเดียวกันส่วนแบ่งตลาดของกาแฟ ในตลาดเครื่องดื่มร้อนของเมืองจีน ก็ยังจัดว่าอยู่ในระดับ "จิ๊บจ๊อย" อย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งตลาดของชา

ในตลาดเครื่องดื่มประเภทร้อนของจีน กาแฟมีส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ร้อยละ 1 ขณะที่ชา ยังครองตลาดมากที่สุดถึงร้อยละ 54

"ยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล" เห็นว่าทั้งอัตราการดื่มกาแฟที่ต่ำของชาวจีน และขนาดส่วนแบ่งตลาดของกาแฟที่มีเพียงเล็กน้อยในตลาดเครื่องดื่มร้อนของจีน คือโอกาสที่เปิดกว้างอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการค้าเครื่องดื่มทางเลือกที่มุ่งมั่นจะรุกขยายตลาดเข้าไปในประเทศจีน

อาร์.เจฮอทโตวี่ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค บริษัทมอร์นิ่งสตาร์อิงค์ มีทรรศนะที่สอดคล้องกับข้อมูล "ยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล" โดยเห็นว่าพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มในจีน กำลังเปลี่ยนจากรสนิยมดั้งเดิมที่มีความผูกพันแนบแน่นอยู่กับชา ไปเป็นเครื่องดื่มทางเลือกอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟ กำลังก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่นับวันจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

กลุ่มคนจีนที่น่าจะเป็นขาประจำของกาแฟ คือกลุ่มวัยรุ่น คนหนุ่มสาวที่ต้องการหลุดพ้นจากความซ้ำซากจำเจ ไปแสวงหาความแปลกใหม่