นายกัณฑ์กณัฐ แสนสุกวิหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีน ลาเท็กซ์ จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่นอนและหมอนยางพาราธรรมชาติเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายต้องการเป็นผู้นำแบรนด์เบอร์หนึ่งของตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพาราไม่เฉพาะหมอนและที่นอนที่ทำมาจากยางพาราเท่านั้น ถึงแม้ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การตลาดจะมีการแข่งขัน กันสูงมาก แต่บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์การหาตลาดใหม่ และการลงทุนใหม่ๆ อย่างเช่น ปีนี้ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 พันล้าน สร้างโรงงานการผลิตแห่งใหม่ บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม นวนคร เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ ในการเป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูง จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตหมอนยางพารา 3 ล้านใบ/ปี และที่นอน 3 แสนหลัง/ปี ให้มีปริมาณที่สูงขึ้น คาดว่าจะเดินสายพานการผลิตได้เร็วๆ นี้ เพื่อรองรับธุรกิจที่กำลังจะเติบโต ยิ่งขึ้น ในส่วนโรงงานและโชว์รูมใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือนเมษายน ส่วนในสายการผลิตดำเนินการเสร็จแล้วและสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงแล้ว ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับโรงงานเก่า สำหรับงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการวางแผนไว้ว่าจะจัดในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 นี้
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า นอกจากแบรนด์ “กรีนลาเท็กซ์” แล้ว บริษัทยังมีแบรนด์ลูกอีกประมาณ 6-7 แบรนด์ ปัจจุบันมีสัดส่วนการรับจ้างผลิต ให้กลุ่มลูกค้าหลัก 80% คือลูกค้า OEM ตลาดต่างประเทศ โดยได้ผลิต OEM ภายใต้ brand ของลูกค้าให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ หลายแบรนด์ในประเทศจีนและเกาหลีใต้ อีกทั้ง ยังผลิตสินค้า House Brand ให้กับห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ๆ หลายห้างในเมืองไทย นอกจากนี้ยังผลิตสินค้าของบริษัท เพื่อเข้าไปขายในModern Trade ต่างๆ ทั่วประเทศ และขายในตลาดกลุ่มตลาดเออีซี อย่าง กัมพูชา เวียดนาม และปีนี้ยังมีแผนที่จะรุกตลาด มาเลซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา รวมไปจนถึงตลาดตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังสูง
“เรามีแผนต้องการลงทุนร่วมกับนักธุรกิจกัมพูชา เปิดโชว์รูมแห่งที่3 ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีมากขึ้น เนื่องจากตลาดกัมพูชาตอบรับดีมากๆ ขณะเดียวกันยังมองว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับ สหรัฐอเมริกา จะส่งผลดีต่อบริษัท ทำให้ทั้ง2 ประเทศ หันมาซื้อสินค้าไทยมากขึ้น ทำให้บริษัทได้ปรับแผนการตลาดเป็นการเร่งด่วนให้ นำสินค้าและทำการตลาดเจาะตลาดอเมริกา ให้เร็วขึ้นในปีนี้ จากแผนเดิมที่จะเจาะตลาดนี้ ปี 2563”
สำหรับตลาดในประเทศจะยังคงสัดส่วนไว้ที่ 20 % เจาะตลาดกลาง-บน เน้นการแตกไลน์ผลิตสินค้าใหม่ๆ ที่ผลิตจากยางพารา เช่น ลิฟวิ่งมอลล์ และสินค้าที่เป็น ไลฟ์สไตล์ ชูจุดแข็งเรื่องคุณภาพ และให้ความสำคัญกับลูกค้า รวมไปจนถึงออกผลิตภัณฑ์ ตัวใหม่ออกมาเรื่อยๆ เพื่อให้มีความหลากหลาย และไม่ให้ผู้บริโภคมองว่าจำเจ เพราะจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค ในปัจจุบันพบว่า ชื่นชอบสินค้าที่ใหม่ และมีความหลากหลาย
ด้านนางจิรวดี อังศุมาลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีน ลาเท็กซ์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ปี 2562 บริษัทฯ จะวางแผนทุ่มงบประมาณในส่วนของการตลาดและประชาสัมพันธ์กว่า 30 ล้าน เพื่อเปิดตัว สินค้า และบริการของบริษัท ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งเรายังวางแผนบุกตลาดครบทุกช่องทาง เช่น E-Commerce และตลาดต่างประเทศ โดยแผนงานทั้งหมดนี้ เพื่อให้เป็นไปตาม ที่บริษัทตั้งเป้าว่าปีนี้ ธุรกิจจะเติบโตขึ้น 30% จากปี 2561 โดยตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท ส่วนตลาดใหม่ที่น่าจับตามองที่สุด คือ อินเดีย และสหรัฐอเมริกา
