วิกฤตินมฟอนเทอร์รา ปนเปื้อนแบคทีเรียบานปลาย หลังหลายประเทศ เรียกคืนและห้ามนำเข้า ด้านผู้นำแดนกีวี อัดยับยักษ์ใหญ่ผลิตนม พบปัญหาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ไม่ยอมแจ้งเตือน ด้าน ซีอีโอฟอนเทอร์รา ผู้ผลิตนมออกมาขอโทษแล้ว

วิกฤติผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากประเทศนิวซีแลนด์ยังลุกลาม ไม่หยุด หลังบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมราย ใหญ่ของนิวซีแลนด์ และเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก "ฟอนเทอร์รา" (Fon-terra) ออกมาประกาศว่าผลิตภัณฑ์ประเภท นมผง เครื่องดื่มให้พลังงาน รวมถึงผลิต-ภัณฑ์อื่นๆ อีกกว่า 1 พันตันที่ผลิต ในนิวซี แลนด์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 และจำหน่ายใน 7 ประเทศทั่วโลก อาจปนเปื้อน เชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคโบทูลิซึ่ม หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จนต้องประกาศ เรียกคืนสินค้าที่วางจำหน่ายตามท้องตลาด

รัฐบาลจีน ได้เพิ่มการเตือนภัย ด้วย การที่สำนักงานควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันโรค ออกประกาศเตือนให้ผู้บริโภค จากการรับประทานผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดโรค โบทูลิซึ่ม ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์นม หรือมีส่วนผสมของบริษัทฟอนเทอร์รา ซึ่งอาจทำให้ล้มป่วย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

พร้อมกันนี้ ทางสำนักงานฯ ยังได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลนิวซีแลนด์ ดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการตรวจสอบและควบคุมในสินค้าต่างๆ รวม ถึงผลิตภัณฑ์นมที่ส่งออกมายังจีน หลังเกิดกรณีดังกล่าวด้วย

ขณะเดียวกันทางด้านสถานการณ์ความหวั่นวิตกต่อวิกฤติผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียครั้งนี้ ปรากฏว่า หลาย ประเทศ อาทิ จีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย รัสเซีย และไทย ได้เรียกคืนผลิตภัณฑ์นม ที่จำหน่ายตามท้องตลาดตามคำแนะนำของบริษัทฟอนเทอร์ราแล้ว

ทางด้าน นายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ กล่าวตำหนิต่อบริษัท ฟอนเทอร์ราผู้ผลิตนมรายใหญ่ของนิวซีแลนด์ว่า ได้ออกแจ้งเตือนต่อผู้บริโภคเป็น ไปอย่างล่าช้า ทั้งๆ ที่ ได้ตรวจพบปัญหามาตั้งแต่เดือนพ.ค. ปีที่แล้ว

ด้าน นายธีโอ สเปียริงส์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของบริษัทฟอนเทอร์รา ออกแถลงการณ์ที่กรุง ปักกิ่งเมืองหลวงของจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อแสดงความขอโทษต่อสาธารณชนจากกรณีผลิตภัณฑ์นมของบริษัทปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย อันก่อให้เกิดโรคอาหาร เป็นพิษขั้นร้ายแรง

นายคริส แกลโลเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยแมสซีย์ กล่าวว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นกับบริษัทผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ "ฟอนเทอร์รา" มีนัยถึง นิวซีแลนด์ทั้งประเทศ จากความสำคัญของบริษัทต่อระบบเศรษฐกิจและความเสียหาย ที่กำลังเกิดขึ้นต่อตราสินค้าของนิวซีแลนด์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ภาพลักษณ์ของนิวซีแลนด์กับฟอนเทอร์ราไม่สามารถแยกจากกันได้ ทั้งสองสอดประสานกัน ฟอนเทอร์ราคือผู้ส่งออก รายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นตัวแทน ของนิวซีแลนด์ในตลาดทั่วโลก วิกฤติครั้งนี้ถือเป็นผลเสียต่อตราสินค้าบริสุทธิ์ 100% ของนิวซีแลนด์เลยทีเดียว

นายแกลโลเวย์ กล่าว่า สถานการณ์ นี้อันตราย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ที่ใช้กับทารกแรกคลอด และไม่ใช่ความวิตกต่อสุขภาพครั้งแรกที่ฟอนเทอร์ราเข้า ไปเกี่ยวข้อง เพราะเมื่อปี 2551 เคยเกิดเรื่องอื้อฉาวเด็ก 6 คนเสียชีวิตและล้มป่วยกว่า 3 แสนคน หลังจากบริษัทซันลู่ในจีน ซึ่งฟอนเทอร์รามีหุ้นอยู่ด้วยปนเปื้อน เมลามีนในนม