ทย.-ทอท. MOU ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุสนามบินสุวรรณภูมิ-ภูมิภาค

วันอังคารที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2562

ทย.-ทอท. MOU ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุสนามบินสุวรรณภูมิ-ภูมิภาค


กรมท่าอากาศยานและบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ (สนามบินสุวรรณภูมิ) และข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ (สนามบินอนุญาตในส่วนภูมิภาค) ฉบับปรับปรุงแก้ไข (ครั้งที่ 2)

นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน และนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามข้อตกลงการใช้ประโยชน์ (สนามบินสุวรรณภูมิ) และข้อตกลงการใช้ประโยชน์ (สนามบินอนุญาตในส่วนภูมิภาค) ฉบับปรับปรุงแก้ไข ครั้งที่ 2  เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2562 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ โดยได้รับเกียรติจากนางบุษกร ปราบณศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ร่วมในพิธี

นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า การลงนามข้อตกลงการใช้ประโยชน์สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูมิภาค ระหว่างสองหน่วยงานเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังและกรมการบินพาณิชย์ (กรมท่าอากาศยานในปัจจุบัน) ว่าด้วย การให้ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.)ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุที่อยู่ในความปกครองดูแลและใช้ประโยชน์ของกรมการบินพาณิชย์อันเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอนุญาตในส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2545

โดยเป็นการปรับปรุง แก้ไข ข้อตกลงการใช้ประโยชน์ (สนามบินสุวรรณภูมิ) และข้อตกลงการใช้ประโยชน์ (สนามบินอนุญาตในส่วนภูมิภาค) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 เพื่อกำหนดกิจกรรมในการให้บริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอันเกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับกิจกรรมท่าอากาศยาน ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับการดำเนินกิจการท่าอากาศยานในระดับมาตรฐานสากล ร่วมทั้งเพื่อการพัฒนาการใช้ที่ราชพัสดุในท่าอากาศยานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวเป็นไปตามผลการหารือระหว่าง ทย. ทอท. และกรมธนารักษ์   

การแก้ไขข้อตกลงดังกล่าว จะเป็นผลให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. ทั้ง  6 แห่งสามารถดำเนินกิจการที่เกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับกิจการท่าอากาศยานทั้ง 10 กลุ่มได้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงและเป็นการเริ่มต้นที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของท่าอากาศยานใน ประเทศไทยให้มีมาตรฐานและการให้บริการที่ทัดเทียมท่าอากาศยานในระดับสากล ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าได้ต่อไป

ขณะที่ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ทอท.ได้คำนึงถึงความสำคัญในนโยบายการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ ทอท.โดยมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางอากาศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการพัฒนาใช้ประโยชน์ทรัพย์สินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อสังคมและเศรษฐกิจ โดย ทอท.ได้จัดประชุมความร่วมมือระหว่างองค์กรด้านการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุสำหรับท่าอากาศยานในความรับผิดชอบทั้ง 6 แห่ง ซึ่ง ทอท. กรมธนารักษ์ (ธร.) ทย. และกองทัพอากาศ (ทอ.) ได้ร่วมกันพิจารณาและแก้ไข เพิ่มเติมข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุให้มีความสมบูรณ์ โดยเป็นการปรับปรุงในข้อกำหนดกิจกรรมอันเกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับกิจการท่าอากาศยานที่สามารถดำเนินการได้ในที่ราชพัสดุ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการที่ ทอท.จะดำเนินกิจกรรมเชิงพาณิชย์ 10 กิจกรรม ได้แก่ (1) โรงแรม (2) การขนส่งและโลจิสติกส์ (3) สำนักงานและศูนย์ธุรกิจ (4) ร้านค้าและศูนย์การค้า (5) การท่องเที่ยวและนันทนาการ (6) การประชุมสัมมนาและนิทรรศการ (7) ที่พักอาศัย (8) การกีฬา (9) การรักษาพยาบาล และ (10) กิจกรรมอื่นๆ ที่จะตกลงกัน ดังนั้น ในวันนี้ (4 มีนาคม 2562) ทอท. และ ทย. จึงได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูมิภาค จำนวน 2 ฉบับ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ตระหนักและเข้าใจในวัตถุประสงค์ของการประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรด้านการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ตลอดจนสาระสำคัญของข้อตกลง ฉบับปรับปรุง แก้ไข

สำหรับข้อตกลงฯ ฉบับปรับปรุง แก้ไข เป็นข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเนื้อที่ประมาณ 19,251 ไร่ จำนวน 1 ฉบับ และข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จำนวน 1 ฉบับ มีเนื้อที่รวมทั้งหมดประมาณ 8,184-0-76.9 ไร่ ซึ่งจะทำให้ ทอท. สามารถพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย ความคาดหวังของผู้โดยสารและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการท่าอากาศยานเพื่อให้อุตสาหกรรมการบินมีการพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ

“ทอท. ขอขอบคุณ ธร. ทย. ทอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินของไทยการลงทุนในกิจกรรมทางธุรกิจที่หลากหลาย รวมทั้งดำเนินกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการท่าอากาศยานโดยอยู่ภายใต้กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งด้านการขนส่ง การท่องเที่ยว และการบริการได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในระดับสากล (Mega Trends) ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ