หลายปีที่ผ่านมาเราจะคุ้นเคยกับ วัววิทยาศาสตร์ แกะวิทยาศาสตร์ หรือคนที่เป็นผลผลิตจากการผสมเทียม ตามหลักวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงความคุ้นเคยกับอาหารเสริมอัดเม็ด หรือบรรจุแคปซูล ไม่ว่าจะเป็นซุปไก่สกัด ตลอดจนวิตามินสารพัดชนิด แต่ใน เดือนสิงหาคมนี้ประชาคมโลกจะได้สัมผัสรับรู้กับเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์

"มาร์ค โพสต์" นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยมาสทริตซ์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ คือบุคคลซึ่งจะสวมวิญญาณความเป็นเชฟมือทองรังสรรค์เมนูพิเศษใน รูปลักษณ์ของแฮมเบอร์เกอร์ ที่ปรุงขึ้นจากเนื้อวัวที่สังเคราะห์ขึ้นในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์

นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนา "เนื้อวัวสังเคราะห์" จากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ

ปัจจัยประการแรก เขาตระหนักดีว่าความต้องการบริโภคเนื้อวัวในโลก มีแนวโน้มเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้น

ความตระหนักของนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ดูจะสอดคล้องต้องกับข้อมูลการศึกษาขององค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติที่ระบุว่าความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ในโลก มีแนวโน้มที่จะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นเป็น 2 เท่าของปัจจุบันภายใน 40 ปี และกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภคที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ไม่น่าจะเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการ

ปัจจัยประการที่ 2 คือความตระหนักในการลดปริมาณมลพิษทางอากาศ เนื่องจากกระบวนการเลี้ยงสัตว์จะมีการผลิตมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมลพิษทางอากาศ

ปัจจัยประการที่ 3 คือความตระหนักในการลดการทารุณสัตว์ เนื่องจากกระบวนการแปรรูปเนื้อสัตว์ เพื่อการบริโภค จำเป็นต้องมีการ "ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต" แต่การสร้างเนื้อสังเคราะห์จากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์

กรรมวิธีสร้างเนื้อสังเคราะห์เพื่อการบริโภคของนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ ได้ผ่านการศึกษาพัฒนาต่อเนื่องกันมานาน 2 ปี ด้วยทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จำนวน 384,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12 ล้านบาท

วิธีการที่เขาใช้สร้างเนื้อสังเคราะห์คือการสกัด สเต็มเซลล์จากวัว ไปเข้ากระบวนการเพาะเลี้ยงในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นเวลา 9 สัปดาห์ก็จะได้เนื้อวัวสังเคราะห์ พร้อมสำหรับการปรุงอาหารบริโภค

ตอนนี้เนื้อวัวสังเคราะห์ชุดแรก จากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ "มาร์ค โพสต์" พัฒนาขึ้นพร้อมสำหรับการปรุงอาหารแล้ว และเขาเลือกที่จะนำไปทำเป็นเมนูแฮมเบอร์เกอร์ให้ผู้คนได้ลิ้มชมรสกันเป็นปฐมฤกษ์ในมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่คนที่นั่นกำลังปลื้มปีติ กับเจ้าชายองค์น้อยๆ รัชทายาทลำดับ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ