“แดรี่ควีน” เผยมัดเด็ด 3 กลยุทธ์หลักลุยขยายดีลิเวอรี-ฟูดทรัก

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

“แดรี่ควีน” เผยมัดเด็ด 3 กลยุทธ์หลักลุยขยายดีลิเวอรี-ฟูดทรัก


นายนครินทร์ ธรรมหทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม “แดรี่ควีน” กล่าวว่า ปัจจุบันแดรี่ควีนมีสาขาเปิดให้บริการทั่วโลก กว่า 6,800 แห่ง สำหรับในประเทศไทย ไมเนอร์ ดีคิว เป็นผู้นำแบรนด์ ‘แดรี่ควีน’ เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2539 โดยมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ 2 แบบ คือ ร้านที่บริหารโดยไมเนอร์ ดีคิว และร้านแฟรนไชส์ ในขณะที่ ในด้านผลิตภัณฑ์ แดรี่ควีนเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทที่ลูกค้าเลือกรับประทานเพื่อความพึงพอใจ เราจึงมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบทุกความต้องการ และทุกช่วงเวลาให้กับลูกค้า ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเภท ได้แก่ 1) ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟ 2) ไอศกรีมเค้ก/ไอศกรีมแซนวิช 3) ฮอทดอก และ 4) เครื่องดื่ม โดยจำ หน่ายในราคาตั้งแต่ 10 บาท ไปจนถึง 495 บาท มีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-29 ปี ที่มองหาผลิต ภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รสชาติถูกปาก จำหน่ายในราคาที่เข้าถึงได้

สำหรับในปีนี้ 2562 บริษัทฯ เตรียมงบการตลาดไว้ที่ 100 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 80 ล้านบาท เพื่อรักษาตำแหน่งผู้เล่นหลักในกลุ่มไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งปัจจุบันแดรี่ควีนเป็นผู้นำตลาดมากกว่า 50%  ด้วยการเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ด้วยการนำเสนอความหลากหลายของเมนูให้มากขึ้น โดยเน้นสร้างความแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์กลุ่มฮอทดอก และเครื่องดื่มที่มีรสชาติถูกปากคนไทย และจะเร่งขยายการจำหน่ายฮอตด็อกในสาขาแดรี่ควีนให้ครบทุกสาขาที่สามารถทำได้ จากปัจจุบันยังมีจำหน่ายฮอตด็อกเพียง 100 กว่าสาขาเท่านั้นเอง โดยปีนี้บริษัทก็ตั้งเป้าเปิด 40 สาขาขั้นต่ำ จากปีที่แล้วเปิด 60 สาขา ซึ่งนอกจากจะมีร้านแบบเดิมแล้วจะบุกตลาดด้วย 2 ช่องทางใหม่อย่างจริงจัง คือ ฟูดทรัก กับดีลิเวอรี ซึ่งเริ่มทดลองมาแล้ว มีฟูดทรัก 5 คัน เป็นของบริษัทฯ ทั้งหมด ที่มีทั้งจอดขายตามทำเลต่างๆ กับรับจัดงานอีเวนต์ด้วย ส่วนดีลิเวอรีเริ่มปีที่แล้วเติบโตทุกเดือนด้วยเบอร์ 1112 ซึ่งการเลือก Strategic Location เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นเพราะบริษัทฯ ไม่ได้เน้นขยายสาขาตามสภาพภูมิศาสตร์แต่จะเน้นการเข้าไปอยู่ในทุกโอกาส

ตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแดรี่ควีนมีรายได้เติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 4% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 5% ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 23% ให้บริการลูกค้ามากกว่า 50 ล้านบิลต่อปี ซึ่งแดรี่ควีนไทยมีตลาดที่ใหญ่ที่สุดในแง่จำนวนสาขาเป็นที่ 3 ของโลก รองจากอเมริกา และจีน จากจำนวนสาขาทั่วโลกกว่า 6,800 สาขาแล้ว” 

นายนครินทร์  กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ากำหนดทิศทางของแดรี่ควีนนับจากนี้ไปอีก 3-5 ปี คาดว่าจะขยายสาขาให้ครบ 1,000 สาขา จากขณะนี้มี 500 สาขา และมีรายได้รวมเพิ่มเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว (2561) ที่มีรายได้รวม 2,444 ล้านบาท  ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1) เร่งเพิ่มพันธมิตรค้าปลีก และแฟรนไชซี สร้างความได้เปรียบด้านช่องทางการขาย ทั้งร้านแบบเดิมและแบบใหม่ ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนสาขาบริษัทฯ และแฟรนไชส์เท่ากันที่ 50% 2) เลือกโลเกชันในการขยายสาขา เน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ 500 สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ มีเพียง 2 จังหวัดเท่านั้นที่ยังไม่มีแดรี่ควีน คือ อุทัยธานี กับนราธิวาส ที่คาดว่าจะเริ่มขยายได้ในปีนี้ และ 3) มุ่งสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเภท ได้แก่ 1. ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ 2. ไอศกรีมเค้ก/ไอศกรีมแซนด์วิช 3. ฮอตด็อก และ 4. เครื่องดื่ม โดยจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 10 บาท ไปจนถึง 495 บาท และเน้นทำการตลาดบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ