ย้อนรอย"ฝาง"ต้นแบบสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งแรกของไทย

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ย้อนรอย


นายภูมี ศรีสุวรรณ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นำคณะสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ศึกษาดูงานการบริหารจัดการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม “แหล่งน้ำมันดิบฝาง”  ย้อนรอยต้นกำเนิดการจัดหาและพึ่งพาทรัพยากรพลังงานในประเทศ ก่อนต่อยอดสู่การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในปัจจุบัน โดยมี พลตรี หม่อมหลวง ประวีร์ จักรพันธุ์  ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้เกียรติต้อนรับ ณ ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

 
นายภูมี ศรีสุวรรณ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวภายหลังจาการนำคณะสื่อมวลชนเข้าชมการบริหารจัดการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม “บ่อน้ำมันฝาง” ของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ ว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มีบทบาทหน้าที่หลักของในการจัดหาพลังงานเพื่อรองรับต่อความต้องการใช้ในประเทศ ในการศึกษาดูงานการบริหารจัดการแหล่งน้ำมันดิบฝาง ของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร ถือเป็นการร่วมย้อนรอยสู่ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ เนื่องจากแหล่งน้ำมันดิบแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำมันดิบแห่งแรกที่ค้นพบในพื้นที่ประเทศไทย และเป็นจัดเริ่มต้นของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ผลักดันให้เกิดการตื่นตัวเรื่องจัดหาและพึ่งพาทรัพยากรพลังงานในประเทศ จนพัฒนาไปสู่การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยในปัจจุบัน
 
ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ นอกจากจะดำเนินงานด้านปิโตรเลียมอย่างครบวงจรแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่รวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ตั้งแต่ต้นกำเนิดปิโตรเลียม กระบวนการขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียม ตลอดจนประวัติความเป็นมาของแหล่งน้ำมันดิบแห่งแรกของไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย

พันเอก นรสิงห์  ภีมะโยธิน รองผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร เปิดเผยว่า ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2532 เพื่อดำเนินงานด้านกิจการปิโตรเลียมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจ และผลิตและการกลั่นปิโตรเลียม ภายใต้กรอบและแนวทางที่กระทรวงกลาโหมกำหนด โดยดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง แพร่ และลำพูน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้สงวนไว้เพื่อกิจการปิโตรเลียม ของกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันการผลิตปิโตรเลียมของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ ดำเนินการเฉพาะที่แหล่งน้ำมันดิบฝาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ตำบลแม่คะ แม่สูน และสันทราย โดยมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 750 บาร์เรลต่อวัน จากหลุมผลิตทั้งหมด 62 หลุม ซึ่งน้ำมันดิบที่ผลิตได้ทั้งหมดจะส่งเข้าโรงกลั่นฝางเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูป เพื่อใช้ในภารกิจของกระทรวงกลาโหมเป็นหลัก     
     
สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ของศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กับชุมชนโดยรอบ หน่วยได้จัดตั้งอาคารพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ด้านปิโตรเลียม เพื่อเผยแพร่และให้ความรู้ด้านปิโตรเลียมให้กับบุคคลทั่วไป หน่วยมีการจัดครูฝึก ให้ความรู้กับนักเรียนหลักสูตร การเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่จะปฏิบัติงานเจาะหลุมปิโตรเลียม (Drilling School) และโรงเรียนโดยรอบ และได้สอดแทรกในการปลูกฝังให้เยาวชนมีความรักในสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และรู้ถึงการป้องกันและห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้หน่วยยังได้จัดตั้งชุดบรรเทาสาธารณภัยและชุดประสานงานกิจการพลเรือน เพื่อประสานงานและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ด้านต่างๆ เช่น การช่วยเหลือเหตุอุทกภัย การสนับสนุนน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค และมีศูนย์พัฒนากีฬา เพื่อให้กำลังพล ครอบครัว และประชาชนมาใช้บริการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ