เยือนอีสาน.. ไหว้พระธาตุพนม เสริมมงคลคุ้มภัยคนเกิดวันอาทิตย์

วันพุธที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เยือนอีสาน.. ไหว้พระธาตุพนม เสริมมงคลคุ้มภัยคนเกิดวันอาทิตย์


นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) "ปุริมายะ ทักขิณายะ ปัจฉิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ อุปะริมายะ ทิสายะ กะปะณะศิริสะมิง ปัพพะเต มหากัสสะเปนะ ฐาปิตัง พุทธะอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิ" "พระ ณ สยาม" ฉบับนี้ออกจะดูผิดหูผิดตาไปบ้าง เพราะครั้งนี้เป็นการเอาใจพุทธศาสนิกชนผู้ชื่นชอบตระเวนไหว้พระขอพร โดยเฉพาะการไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ฉบับนี้เราไปลงหลักปักหมุดยังพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม กับเรื่องราวที่เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านยังไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อน หรืออาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
ขอเริ่มต้นจากพระธาตุประจำวันอาทิตย์คือ "พระธาตุพนม" ซึ่งนอกจากจะเป็นพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันอาทิตย์แล้วยังจะเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของผู้ที่เกิดปีวอกหรือปีลิงอีกด้วย พระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ที่ "วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร" ห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 500 เมตร ตำบลธาตุพนม อำเภอ ธาตุพนม ห่างจากตัวจังหวัดนครพนมประมาณ 52 กิโลเมตร ปัจจุบันมีพระเทพวรมุนี (สำลี ปญฺญาวโร ป.ธ.5) เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครพนม
ตามตำนานเล่าขานกันว่าพระธาตุพนม สร้างมานานไม่น้อยกว่า 2,300 ปี ผู้ที่สร้างคือ พระมหากัสปะ พร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุ หรือ กระดูกหน้าอกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเพื่อบรรจุไว้ในพระธาตุ ผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างพระธาตุนี้คือ พญาทั้งห้าผู้เป็นใหญ่ ซึ่งอยู่ ณ เมืองต่างๆ อันได้แก่ พญาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนอง หานหลวง, พญาคำแดง เจ้าเมืองหนองหาน น้อย, พญาจุลมณีพรหมทัต เจ้าเมืองจุลนีพรหมทัต, พญาอินทรปัตถ์ เจ้าเมืองอินท ปัตถ์นครและพญานันทเสน เจ้านครศรีโคตรบูรณ์ อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุได้สร้าง อูบมุงขึ้นเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุตามพุทธพยากรณ์ โดยก่อสร้างด้วยดินดิบ ฐานพระธาตุพนมได้ขุดลงไปจนเป็นอุโมงค์ เพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุ
ประมาณ พ.ศ.8 พระอุตรเถระและพระโสณเถระ สมณทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช ได้อัญเชิญมาและพระมหากัสสะปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้บนภูกำพร้า (ที่ตั้งองค์พระธาตุพนมในปัจจุบัน) ได้รับการ บูรณปฏิสังขรณ์ พระธาตุพนมได้รับการบูรณะและอุปถัมภ์โดยกษัตริย์แห่งล้านช้าง จากนั้นพระธาตุพนมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ มีพิธียกฉัตรทองคำขึ้นประดิษฐานไว้ที่ยอดพระธาตุและนำฉัตรเก่ามาเก็บไว้เมื่อปี พ.ศ.2497 มีพุทธศาสนิกชน จากดินแดนสองฝั่งโขงทั้งไทยและลาวหลั่ง ไหลมาร่วมมงคลสันนิบาติ และนมัสการ องค์พระธาตุเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ในปีพ.ศ.2485 วัดพระธาตุพนมได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น "วรมหาวิหาร" ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2518 เวลา 19.38 น. องค์พระธาตุพนมได้เกิดชำรุดหักโค่นจากเหตุความเก่าแก่ขององค์พระธาตุและประจวบกับระหว่างนั้นได้เกิดพายุพัดแรงติดต่อกันหลายวัน พุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ จึงได้ร่วมใจกันบริจาคทุนทรัพย์ โดยรัฐบาล ได้ทำการก่อสร้างองค์พระธาตุองค์ใหม่ให้คงสภาพเดิม ภายในปีเดียวกันเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2522 นอกจากพระบรมสารี ริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของ มีค่าอีกมากมายนับหมื่นชิ้นโดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุมีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ปัจจุบันองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม ดูสง่างาม และได้ยืนยงคงอยู่มาจนทุกวันนี้
ว่ากันว่าการบูชากราบไหว้องค์พระธาตุพนมนั้นพุทธศาสนิกชนจะต้อง เตรียมเครื่องบูชาซึ่งประกอบด้วย ข้าวตอก ข้าวเหนียวปิ้ง น้ำอบ ดอกไม้สีแดง ธูป 6 ดอก และเทียน 2 เล่ม และส่วนอานิสงส์ของการไหว้องค์พระธาตุพนมนั้นมีความเชื่อกันว่าผู้ที่ได้มากราบขอพร พระธาตุจะเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตให้เป็นผู้มีบุญบารมีจะทำให้ผู้คนเคารพนับถือมาก และจะเป็นผู้ที่มีนิสัยใจคอเด็ดเดี่ยว
นอกจากพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์แล้วภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารยังมีสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ พระอุโบสถ วิหารหอพระแก้ว วิหารคตรอบ องค์พระธาตุพนม เสาหลักศิลาเสมา และถือว่าเป็นอีกหนึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของวัดคือ "บ่อน้ำพระอินทร์" หรือ "สระน้ำมูรธา ภิเษก" ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุประมาณ 60 เมตร ทางทิศเหนือบริเวณกำแพงชั้นนอก
จากข้อมูลของสวท.นครพนมยังได้บอกไว้ว่า "บ่อน้ำพระอินทร์" เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ กว้าง 1.5 เมตร ลึก 10 เมตร กรุข้างบ่อด้วยไม้แดง ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธาตุไม่มีประวัติการขุด เป็นบ่อน้ำเก่าแก่ มีมาพร้อมกับวัดพระธาตุพนม เป็นบ่อ น้ำจืดใสสะอาด มีน้ำตลอดทั้งปี เป็นบ่อน้ำ ศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่ง ที่เคยใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ถวายในพระราชพิธีมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
เห็นอย่างนี้แล้วคนเกิดวันอาทิตย์และผู้ที่เกิดปีวอกคงต้องรีบหาโอกาสเดินทางไปกราบไหว้องค์พระธาตุพนมเพื่อความ เป็นสิริมงคลกันแล้ว ส่วนคนที่เกิดในวันอื่น ก็ไม่ต้องเสียใจ ไว้มีโอกาสประจวบเหมาะเราจะนำไปกราบพระธาตุประจำวันเกิดอื่นๆ กันต่อ


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ