เฟซบุ๊ก สังคมออนไลน์ ยักษ์ใหญ่ของโลก ออกรายงาน ฉบับแรก เปิดข้อมูลแฉรัฐบาล 74 ประเทศ แอบล้วงตับขอข้อมูลผู้ใช้เกือบ 4 หมื่นราย สหรัฐฯ แชมป์ ขอกว่าหมื่นราย ส่วนไทยไม่น้อยหน้า ขอดู 5 ครั้ง

เว็บไซต์ "เฟซบุ๊ก" (Facebook) สังคมออนไลน์ยอดนิยม เปิดเผยว่า ได้รับ คำร้องจากรัฐบาลทั่วโลกในการขอข้อมูลผู้ใช้กว่า 38,000 รายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และได้ให้ข้อมูลตามคำขอแล้วประมาณ 80% ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลผู้ใช้จากในสหรัฐฯ เฟซบุ๊กซึ่งมีสมาชิกกว่า 1,000 ล้านคน ทั่วโลก ออกรายงานฉบับแรกเกี่ยวกับคำ ขอข้อมูลจากรัฐบาลทั่วโลก หรือ "Global Government Requests Report" เมื่อวันพุธ (28ส.ค.) ที่ผ่านมา โดยเปิดเผยข้อมูลคำขอจากรัฐบาลใน 74 ประเทศ ปรากฏว่า ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนของปีนี้ มีการร้องขอข้อมูลผู้ใช้จำนวน 37,954-38,954 ราย ในจำนวนนี้เป็นหน่วย งานด้านกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ขอข้อมูลผู้ใช้ 20,000-21,000 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วง เดือนมิถุนายน-ธันวาคมปีก่อนที่ขอ 18,000-19,000 ราย รองลงมาคือ ทาง การอินเดีย 3,245 ราย เยอรมนี 2,068 ราย และอิตาลี 2,306 ราย สหราช-อาณาจักร 1,975 ราย ขณะที่ประเทศไทย มีการร้องขอ 5 ราย

เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ได้ให้ข้อมูลตามคำขอประมาณ 80% หลังจากที่ได้ตรวจสอบ คำขอแต่ละรายอย่างละเอียด และขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะรวมถึงจำนวนครั้งที่เฉพาะเจาะจงและประเภทของคำขอที่เกี่ยวกับความมั่นคงภายใน ส่วนใหญ่เป็นการให้ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น เช่น ชื่อผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็น การให้ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กไม่ได้สรุปว่าเหตุใดจึงมีการร้องขอข้อมูล และแจกแจงข้อมูลการร้องขอเป็นรายประเทศ โดยแยกเป็นจำนวนคำร้องขอ และจำนวนผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมยังระบุถึงจำนวนเปอร์เซ็นต์ของการร้องขอที่ประสบความสำเร็จด้วย ขณะที่ผู้ใช้หลายรายอาจรวมอยู่ในคำขอครั้งเดียว

สำหรับกรณีของประเทศไทย เฟซบุ๊ก ระบุหน่วยงานภาครัฐไทยยื่นขอข้อมูลทั้งหมด 2 ครั้ง นับจำนวนผู้ใช้รวม 5 บัญชี ซึ่งก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กไม่เคยเปิดเผยข้อมูลต่อรัฐบาลไทย

รายงานระบุว่า เฟซบุ๊กระบุจำนวน คำขอของแต่ละประเทศอย่างชัดเจน ยกเว้นสหรัฐฯ ที่จะเผยตัวเลขคร่าวๆ เนื่อง จากรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามเฟซบุ๊ก เปิด เผยตัวเลขที่แท้จริง เฟซบุ๊กยังย้ำว่า บริษัท หวังว่าจะได้เผยแพร่รายงานในลักษณะเดียวกันนี้ทุกๆ 6 เดือน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และหวังว่ารายงานชิ้นนี้จะชี้ให้เห็นกระบวนการที่เข้มงวดที่เกี่ยวข้องกับการ ได้มาซึ่งข้อมูลของผู้ใช้

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กออกรายงานฉบับแรก เกี่ยวกับคำขอข้อมูลจากรัฐบาลทั่วโลก หลังจาก นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างหน่วยข่าวกรองสหรัฐ หรือสหรัฐฯ เปิดโปงว่า บริษัทอินเตอร์เน็ตรายใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล ทวิตเตอร์ และไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลของผู้ใช้แก่หน่วยข่าวกรอง ของรัฐบาล ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับโครงการ PRISM ซึ่งเป็นการสอดส่องประชาชนของ สภาความมั่นคงของสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายเดฟ ลี ผู้สื่อข่าวสายเทคโนโลยี ประจำสำนัก ข่าวบีบีซี ประเทศอังกฤษ รายงานข่าวว่า รัฐบาลไทยได้เรียกร้องขอให้ทาง "เฟซบุ๊ก" เปิดเผยข้อมูลการใช้ของบุคคลในประเทศไทยจำนวน 7 ครั้ง แต่ได้รับการ ปฏิเสธจากทาง "เฟซบุ๊ก" ว่าไม่สามารถดำเนินการให้ได้

นอกจากรัฐบาลไทยแล้ว ยังมีรัฐบาล ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้ขอให้เฟซบุ๊ก ดำเนินการในลักษณะเดียวกันกว่า 71 ชาติ อาทิ สหรัฐฯ, อินเดีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, อิตาลี, กัมพูชา, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เป็นต้น

เดฟ ลี ระบุ ในรายงานว่า นายคอลิน สเตรทช์ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า บริษัทได้รายงานตัวเลขของการร้องขอที่เกี่ยวกับอาชญากรรมและความมั่นคง ของชาติมากที่สุดเท่าที่กฎหมาย จะอนุญาตให้เปิดเผยได้ พร้อมระบุด้วยว่า บริษัทจะพยายามผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาต ให้เปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส มากขึ้น โดยจะรวมถึงจำนวนครั้งที่เฉพาะเจาะจงและประเภทของคำขอที่เกี่ยวกับความมั่นคงภายในด้วย