ปรากฏการณ์ 11.11 จากวันคนโสด สู่ เทศกาลช้อปปิ๊งระดับโลก สร้างเม็ดเงินธุรกิจ E-Commerce พุ่ง

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ปรากฏการณ์ 11.11 จากวันคนโสด สู่  เทศกาลช้อปปิ๊งระดับโลก สร้างเม็ดเงินธุรกิจ E-Commerce พุ่ง


เพิ่งผ่านไปไม่นานสำหรับ วันที่ 11 พฤศจิกายน หรือ 11.11 ที่อาจจะมีหลายคนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับวันดังกล่าวว่ามันมีที่ไปที่มาอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นวันช้อปปิ้งออนไลน์แห่งชาติไปแล้ว  และจากกระแสที่ฮอตมากก็เริ่มลามออกไปใช้ในส่วนของร้านค้าออฟไลน์กันแล้วด้วย 

อันที่จริงแล้วสัญลักษ์ย่อ 11.11 มาจาก วันที่ 11 เดือน 11 ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้นมันคือวันคนโสดของประเทศจีน โดยวันคนโสดเริ่มต้นขึ้นจากนักศึกษามหาวิทยาลัยนานจิง (Nanjing University) บางส่วนตัดสินใจที่จะแยกตัวออกจากความเบื่อหน่ายในการเป็นโสดของเขาในหนึ่งวัน นั่นคือ วันที่ 11 เดือน 11 เหตุผลที่พวกเขาเลือกวันนี้เพราะว่านัยสำคัญของเลข 1 คือความโดดเดี่ยว นั่นคือเครื่องหมายของความโสดนั่นเอง อย่างไรก็ตามการเฉลิมฉลองที่เรียบง่ายนี้กลายเป็นหนึ่งในวันชอปปิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ปรากฎว่าเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และด้วยความอัจฉริยะภาพของ แจ็ค ม่า เจ้าพ่อ แห่ง Alibaba เลย จับวันคนโสด มาร่วมผสมในกลยุทธ์ทางการตลาดสะเลยในการสร้างสีสันกระตุ้นให้คนโสด มาช้อปปิ้งกัน จนปัจจุบันได้ทำให้กระแสนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ฮอตจนทำให้วันดังกล่าวกลายเป็นเทศกาลช้อปปิ้งแห่งชาติระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในประเทศไทยด้วย  โดยตอนนี้ได้มีผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ ก็ได้เลือกวัน 11.11 เป็นมหกรรมช้อปปิ้งประจำปีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, JD.com เป็นต้น

ล่าสุด เพิ่งได้ผ่านเทศกาลดังกล่าวไป ได้ไม่นาน ทาง อาลีบาบา กรุ๊ป” บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ E-Commerce ผู้ริเริ่มเทศกาสดังกล่าว  ได้ออกมาบอกถึงความสำเร็จของยอดขายในช่วงเทศกาลนี้ โดย นายแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า การที่ธุรกิจในระบบนิเวศทั้งหมดของอาลีบาบาได้เข้าร่วมในงานนี้ ทำให้แบรนด์และพันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ สามารถสร้างการปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในอนาคต อาลีบาบาจะยังคงเป็นผู้นำวิวัฒนาการเพื่อก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ดิจิทัลในอนาคต  โดย ยอดมูลค่าสินค้ารวม  (GMV)  ชำระผ่านอาลีเพย์ ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 213,500 หยวน (ประมาณ 30,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 27% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดย ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค ดูแลรับผิดชอบการส่งสินค้า 1,000 ล้านออเดอร์  และ กว่า 180,000 แบรนด์ เข้าร่วมในเทศกาล ซึ่งผู้บริโภคกว่า 40% ซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์ต่างชาติ  และ มี 237 แบรนด์ที่มียอด GMV สูงกว่า 100 ล้านหยวน อาทิ Apple, Dyson, Kindle, Estée Lauder, L’Oréal, Nestlé, Gap, Nike and Adidas  สำหรับประเทศที่ขายสินค้าให้กับจีนในงานนี้สูงสุดคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี  จาก 230 ประเทศ/เขต เกี่ยวข้องกับธุรกรรม อีกทั้ง ลาซาด้า เข้าร่วม 11.11 ในฐานะหนึ่งในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา นำเสนองานเทศกาลนี้ให้กับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

ด้าน เจมส์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้า พยายามที่จะขยายความสามารถของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อที่จะสร้างนิยามของประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์แบบใหม่ สำหรับลูกค้า ผู้ค้า และแบรนด์สินค้าต่างๆ สำหรับเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 ในครั้งนี้ ลาซาด้าได้เตรียมความพร้อมของระบบโลจิสติกส์และฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ รวมทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยีจากอาลีบาบามาอัพเกรดเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่  และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับเทศกาลช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุด วันเดียวแห่งปี เพราะสิ่งที่จะกำหนดให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซหยุดนิ่งหรือไปต่อได้นั้น ก็คือความสามารถของอีคอมเมิร์ซนั่นเอง ว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและทำให้พวกเขาเหล่านั้นกลับมาซื้อสินค้าได้หรือไม่

ปิดท้าย  เทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ช้อปปี้ กล่าวว่า สำหรับแคมเปญ 11.11 ในปีนี้ เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีมา โดยในปีนี้ ช้อปปี้” ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักช้อปจนทำให้ ช้อปปี้” สามารถทุบสถิติปีก่อนภายในเวลาเพียง 7.46 น. (GMT+8)  โดยทั่วทั้งภูมิภาค ช้อปปี้” มีจำนวนยอดคำสั่งซื้อกว่า 11 ล้านออเดอร์ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งสูงขึ้น จากปี 2560 ถึง 4.5 เท่า และมีจำนวนนักช้อปมากกว่า 42 ล้านคน หลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า ดีล และโปรโมชั่นสุดปังจากทุกหมวดหมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่พีคที่สุด มีสินค้าถูกจำหน่ายออกไปกว่า 58,000 ชิ้น ภายในหนึ่งนาที โดยเมือวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา แบรนด์และร้านค้าที่ได้รับความสนใจจากนักช้อปทำให้มียอดคำสั่งซื้อสูงกว่า 1,909 เท่า และมีนักช้อปแวะเวียนเข้ามาเลือกชมสินค้าสูงขึ้นกว่า 800% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมวดหมู่สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม โฮมแอนด์ลีฟวิ่ง และโมบายแก็ดเจ็ต ซึ่งเป็น 3 หมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยในวันนั้นสินค้าที่เป็นที่นิยมสูงสุด 3 อันดับแรกประกอบด้วย วาสลีน ลิป เทอราพีหลอดไฟ OPPLE LED, เบบี้เลิฟ พาวเวอร์แพ้นส์ เป็นต้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ