Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ไมโครซอฟท์ลุยธุรกิจมือถือ ทุ่ม 2 แสนล้านเทกโอเวอร์ "โนเกีย"
ไมโครซอฟท์ลุยธุรกิจมือถือ ทุ่ม 2 แสนล้านเทกโอเวอร์ "โนเกีย"
วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556
Tweet
"โนเกีย" ได้ท่อน้ำเลี้ยง หลัง "ไมโครซอฟท์" ทุ่ม 5.44 พันล้านยูโร เข้าซื้อกิจการ สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมไอทีโลก พร้อมส่งสัญญาณชิงชัยธุรกิจมือถือเต็มตัว สู้กับคู่แข่งยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนโลกอย่างแอปเปิล ซัมซุง พร้อมโอนย้ายพนักงาน 3.2 หมื่นคนของโนเกียสู่ชายคาไมโครซอฟท์
บริษัทไมโครซอฟท์ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั่วโลก ทุ่ม 5,440 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 220,000 ล้านบาท ซื้อกิจการโทรศัพท์มือถือโนเกีย เจ้าของโทรศัพท์มือยักษ์ใหญ่ ของโลกจากฟินแลนด์ที่กำลังประสบปัญหา ขาดทุน โดยแบ่งเป็นค่าอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดของโนเกีย 3,790 ล้านยูโร และค่าสิทธิบัตรต่างๆ 1,650 ล้านยูโร ของบริษัทโนเกียด้วย ที่เมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ คาดว่าดีลนี้จะเรียบร้อยราวไตรมาสแรกปี 2557 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น และการ ตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับประเทศ
โดยการเข้าซื้อกิจการโนเกีย ของยักษ์ซอฟต์แวร์ "ไมโครซอฟท์" สร้างความตื่นตัวให้ตลาดไอที หลังก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่าดีลนี้ไม่น่าสำเร็จ ด้วยผลประกอบการทั้ง 2 บริษัทไม่ค่อยดีนัก ทั้งยังโดนคู่แข่งบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่เบียดแย่งชิงตลาดไปมากมาย
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์จะโอนย้ายพนักงานทั้ง 32,000 คนของโนเกียไปเป็นพนักงานของไมโครซอฟท์ ซึ่งประกอบด้วย พนักงาน 4,700 คนในประเทศฟินแลนด์ และ 18,300 คนที่อยู่ในฝ่ายการผลิต ประกอบ และพัฒนาอุปกรณ์ทั่วโลก รวมทั้ง นายสตีเฟน เอลอป ซีอีโอ ของโนเกีย ที่จะโอนเข้าไปทำงานที่ไมโครซอฟท์เช่นกัน
นายสตีฟ บัลเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า นี่นับเป็นก้าวย่างสำคัญสู่อนาคต ขณะที่พนักงานทุกคน ผู้ถือหุ้น และลูกค้า ต่างก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การซื้อโนเกีย ของไมโครซอฟท์ นอกจากจะทำให้ไมโครซอฟท์เข้าบริหารจัดการโนเกียได้แล้ว โนเกียยังจะเป็นทางลัดให้ไมโครซอฟท์ ก้าวเข้าสู่ธุรกิจมือถืออย่างเต็มตัวด้วย และเป็นการสั่นสะเทือนวงการ ไอทีโลกในวงกว้าง เหมือนครั้งที่กูเกิลเข้า ซื้อกิจการโมโตโรล่า
ปัจจุบัน โนเกีย และไมโครซอฟท์ ถือเป็น 2 ยักษ์ใหญ่ในโลกเทคโนโลยีที่ดิ้น หายุทธศาสตร์ เพื่อความอยู่รอด ท่ามกลาง โลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในธุรกิจของตัวเองกำลังซวนเซ โดยโนเกีย เสียตำแหน่งแชมป์มือถือให้ซัมซุงและไอโฟน ของแอปเปิล และยอดขายมือถือโนเกียยังลดลงต่อเนื่อง ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 7.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2 ปีนี้ โนเกียทำรายได้ลดลงอีก 24% คิดเป็นมูลค่า 5.69 พันล้านยูโร ยังคงขาดทุนสุทธิ 115 ล้านยูโร แม้ตัวเลขจะขาดทุน แต่ยอดขายสมาร์ทโฟน "ลูเมีย" ยังทำยอดขายได้ถึง 7.4 ล้านเครื่องในไตรมาส 2 ปี 2556 ส่วนวินโดว์สโฟนของไมโครซอฟท์ก็มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายแยน วาปาวูรี รัฐมนตรีเศรษฐกิจของประเทศฟินแลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทโนเกียที่มีอายุเก่าแก่ถึง 148 ปี จนกลายเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฟินแลนด์จะแข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากนี้
บริษัทวิจัยไอดีซี เปิดเผยถึงภาพรวมยอดขายสมาร์ทโฟนโลกประจำไตร-มาส 2 ว่า มีจำนวนรวม 237.9 ล้านเครื่อง เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 52.3% ที่มียอดขาย 156.2 ล้านเครื่อง โดยซัมซุงยังครองอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 72.4 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 30.4%
แอปเปิล 31.2 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง ตลาด 13.1% แอลจี 12.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 5.1% เลอโนโว 11.3 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 4.7% แซด ทีอี 10.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 4.2%
อย่างไรก็ตาม แม้โนเกียจะสามารถ รักษาตำแหน่งผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 2 ของโลกไว้ได้ แต่ยังไม่ดีมากพอที่จะ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของตลาดสมาร์ทโฟน พร้อมประเมินว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนไฮเอนด์กำลังเผชิญความท้าทายเครื่องราคาถูกที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยเฉพาะผู้เล่นจากตลาดจีนและตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้ทั้งซัมซุง โนเกีย และเอชทีซี ต้องเร่งปรับตัวโดยเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาจับต้องได้มากขึ้น ผลพวงที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวคือ การลดลงของส่วน ต่างกำไรระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ