ก.ล.ต.กัมพูชาไฟเขียว APM (Cambodia) Securities เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) อย่างเป็นทางการเมื่อ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้าน“สมภพ” ระบุบริษัทมีความพร้อในการดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินฯ ตั้งเป้านำลูกค้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา พร้อมเดินหน้านำหุ้นจดทะเบียนแบบ Dual Listing หรือ Secondary Listing ในตลาดหลักทรัพย์ไทย
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท APM (Cambodia) Securities จำกัด ในฐานะบริษัทย่อยของบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดเผยว่า APM (Cambodia) Securities ได้รับใบอนุญาตที่ปรึกษาทางการเงิน (FA License) เป็นบริษัทแรกในประเทศกัมพูชาจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (Securities and Exchange Commission of Cambodia) หรือ SECC เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินภายใต้การรับรองของ SECC เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 61 ที่ผ่านมาโดยมีนายโส สุเชษฐ์ (Sou Sucheat) เลขาธิการ SECC เป็นผู้มอบ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินภายใต้การรับรองของสำนักงาน ก.ล.ต.กัมพูชา (SECC)
นายสมภพกล่าวว่า การขยายธุรกิจไปกัมพูชาครั้งนี้เป็นผลจาก APM ได้ร่วมมือกับสำนักงาน ก.ล.ต. จัดโปรแกรมเสริมความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน ชื่อว่า Excellence Program ให้กับธุรกิจกัมพูชา จำนวน 150 ราย และจะคัดเลือก 50 รายมาฟูมฟักเพื่อเข้าจดทะเบียนในกระดาน Growth Board โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องเข้าตลาดให้ได้อย่างน้อย 5 ราย
“สำนักงาน ก.ล.ต. กัมพูชา เห็นว่าเราซึ่งมีประสบการณ์ในการนำ SME ไทยเข้าตลาด mai มาก่อน น่าจะผลักดันเรื่องนี้ได้ จึงร่วมกันทำ Excellence Program เพื่อส่งเสริม SME เข้ากระดาน Growth Board ที่ จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจ ทำให้ APM ยื่นขอใบอนุญาตที่ปรึกษาการเงิน คาดว่าในไตรมาส 1 น่าจะได้ใบอนุญาตซึ่งจะทำให้ APM เป็นบริษัทไทยรายแรกที่จะได้ใบอนุญาตที่ปรึกษาการเงินในกัมพูชา ภายใต้การกำกับของสำนักงาน ก.ล.ต. กัมพูชา”
นายสมภาพ กล่าวว่า ภาหลังจากได้รับไลเซ่นส์แล้ว บริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาให้ APM (Cambodia) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 2-3 ราย ภายในปี 62 โดยปัจจุบันได้มีบริษัท Park Cafe Food &Beverage จำกัดแต่งตั้ง APM ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว 1 ราย โดยบริษัทดังกล่าวประกอบกิจการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งในปีนี้จะเข้าไปดำเนินการเรื่องระเบียบด้านบัญชี และโครงสร้างภายในต่างๆของบริษัท โดยคาดว่าจะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ได้ในช่วงปลายปี 62 หรือต้นปี 63
ในขณะเดียวกันคาดว่าจะมีอีก 2 ราย ที่จะแต่งตั้ง APM ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับสีอุตสาหกรรม และธุรกิจโลจิสติกส์
นอกจากนี้ทาง APM ยังได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อผลักดันการจดทะเบียน 2 ตลาด หรือที่เรียกว่าดูโอลิสติ้ง โดยคาดว่าจะเหิดขึ้นในไม่ช้า
“หลังจากที่เราได้ License เพื่อเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศกัมพูชาแล้ว เชื่อว่าเราจะเป็นอีกแรงผลักดันหนึ่งที่จะล่วยผลักดันให้ SECC มีการเติบโตได้ดียิ่งขึ้น จากช่วงที่ผ่านมา 6-7 ปี SECC มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ทั้งหมด 5 บริษัท แบ่งเป็นรัฐวิสหกิจ 3 บริษัท และอีก 2 บริษัท คือเอกชน ซึ่งใน 3-5 ปี คงจะเป็นปีที่เติบโตที่ดีของกัมพูชา” นายสมภพ กล่าว
ประธานกรรมการ บริษัท APM (Cambodia) Securities กล่าวด้วยว่า อีกมิติหนึ่งในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นกัมพูชาคือ ออกหุ้นเพิ่มทุนแล้วมาจดทะเบียนในประเทศไทย แบบ Secondary Listing ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา APM ได้รับการแต่งตั้งจาก PPSEZ บริษัทจดทะเบียนรายที่ 5 ของตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับการระดมทุนแบบ Secondary Listing ในตลาดทุนไทย โดย APM ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นในปลายปี 2018 หรือต้นปี 2019 เพื่อให้เป็นต้นแบบแก่บริษัทจดทะเบียนอื่นในกัมพูชา หรือในตลาดอื่นของกลุ่ม CLMV และดึงความสนใจที่จะเข้ามาระดมทุนในรูปแบบเดียวกันในตลาดทุนไทย
“PPSEZ ก็จะเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างที่ทำให้ผู้ประกอบการน่าจะเห็นว่าเป็นโอกาสหนึ่งในการจดทะเบียนสองประเทศ และเป็นเหตุผลดีที่ทำให้หุ้นมีสภาพคล่อง ผลดีอีกข้อหนึ่งคือทำให้นักลงทุนไทยหรือสถาบันต่างประเทศที่อยู่ในไทย ก็มีโอกาสใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี หุ้นรัฐวิสาหกิจของกัมพูชาที่อนาคตอาจจะมาจดทะเบียนในไทย รวมทั้งยังสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทำให้เกิด CLMVT คือรวมไทยด้วย เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตลาดทุนอาเซียนและมีผลดีต่อการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2020 ด้วย”
ด้านนายกวย วัต (Kuy Vat) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Park Cafe Food&Beverage จำกัด เปิดเผยว่า บรัทมีแผนจะเข้าระดมทุนเพื่อที่จะนำเงินไปลงทุนก่อสร้างครัวกลางของบริษัท รองรับการขยายสาขาทั้งในรูปแบบของการขยายสาขาเอง และการขายแฟรนไชน์ โดยตั้งเป้าที่จะมีสาขา 100 สาขา ในปี 68 จาก ณ สิ้นปีนี้จะมีสาขารวมอยู่ที่ 17 สาขา
“เราเตรียมที่จะเข้าระดมทุนใน SECC เพื่อรองรับการขยายกิจการของเรา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยการสร้างครัวกลาง การขยายสาขา และใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการด้วย” นาย Kuy Vat กล่าว
