นาย ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของซีพีเอ็น กล่าวว่า ในยุคที่การทำธุรกิจมีความท้าทายมากขึ้น ผู้ประกอบการไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ต้องรู้จักปรับตัว เพื่อสร้างธุรกิจให้เข้มแข็งและอยู่รอดเติบโตอย่างยั่งยืน ซีพีเอ็นเองมีวิสัยทัศน์ในการสร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต และมีแนวทางการสนับสนุน SMEs และ Start-up ไทยที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในทุกระดับมาอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินโครงการใน 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ รูปแบบแรก คือ การแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างเจาะลึก ติดอาวุธ SMEs ในโครงการ “CPNlead” เพื่อให้ SMEs สามารถต่อยอดและขยายธุรกิจได้ด้วยตนเองต่อไปในวงการค้าปลีกไทย โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องขยายธุรกิจกับซีพีเอ็นเท่านั้น ซีพีเอ็นในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ในวงการค้าปลีก เราตั้งใจให้หลักสูตรนี้เป็นเสมือน spring board ให้ผู้ประกอบการเติบโตไปพร้อมกัน หลังจากเปิดหลักสูตรมาแล้ว 2 ปี ได้สนับสนุนและปั้นธุรกิจรวม 80 แบรนด์ ซึ่งหลายแบรนด์สามารถต่อยอดความสำเร็จได้ทันที รวมถึงมีความพร้อมที่จะสร้าง Co-Creation ร่วมกันกับซีพีเอ็นต่อไปในอนาคต
“นอกจากนี้ จากจุดแข็งที่เรามีทำเลศักยภาพในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศ เราจึงสนับสนุน SMEs อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการสร้างโอกาสในการขาย ผ่านกิจกรรม ‘SMEs Market Place เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นนำเอาทั้งสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสินค้าประจำจังหวัด ไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ราย มาจำหน่ายในศูนย์การค้าของเราทั่วประเทศ โดยปีนี้ซีพีเอ็นตั้งเป้ายกระดับไปอีกขั้นด้วยการสร้างสรรค์ Destination Concept แบบถาวร เพื่อเป็นพื้นที่และช่องทางจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการท้องถิ่น ในรูปแบบโมเดิร์นเทรดบนโซนนิ่งที่ชัดเจน โดยจะนำร่องที่เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น คัดเลือกทั้งสินค้าของดีประจำท้องถิ่น และเรายังได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ช่วยคัดเลือกผู้ประกอบการจากทั่วประเทศให้มาเข้าร่วมด้วย โดยพร้อมเปิดโซน SMEs ในเดือนธันวาคม 2561 และ ตั้งเป้าขยายไปทั่วประเทศ ภายในปี 2562 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 1,000 ราย”
ด้าน ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการของซีพีเอ็น กล่าวต่อว่า สำหรับหลักสูตร CPNlead คือ เราสามารถปั้นธุรกิจ SMEs ไทยรุ่นใหม่ให้ประสบความสำเร็จและมีพัฒนาการในหลายๆ ด้าน เช่น New Business Model ด้วยการนำเสนอธุรกิจที่มีไอเดียและ Innovation ใหม่ๆ, Product Development จากการค้นพบความต้องการของผู้บริโภคและการทำเวิร์คช้อปร่วมกับเพื่อนผู้ประกอบการ กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบและกล้าทดลองไอเดียใหม่ๆ, Brand Concept ด้วยการทำ Story Telling ให้มีจุดเด่นและน่าดึงดูดสำหรับผู้บริโภค และ Marketing Strategy โดยเฉพาะในยุค Hyper Connected Consumers แบรนด์ยุคนี้ต้องใช้ Digital Communication เป็นต้น โดยรวมหลักสูตรทั้งสองรุ่นกว่า 50% สามารถเติบโตและขยายสาขากับซีพีเอ็น รวมเป็นพื้นที่รีเทลกว่า 8,000 ตารางเมตร”