สมรภูมิธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ระดับโลกนับวันจะห้ำหั่นพันตูกันสุดฤทธิ์ สุดเดช ด้วยไหวพริบ สติปัญญา และนวัตกรรมทางวิทยาการสุดล้ำเลิศบรรเจิดศรี

ล่าสุดค่ายซัมซุง ยักษ์ใหญ่หมายเลข 1 แห่งวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโลกเปิดแนวรบใหม่ทางธุรกิจ ด้วยนวัตกรรม "นาฬิกาอัจฉริยะ" ภายใต้ชื่อ "แกแลคซี่เกียร์" ที่มีขีดความ สามารถทัดเทียมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่มีราคาย่อมเยาเพียงแค่เรือนละ 299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 9,000 บาท

สรรพคุณของเจ้านาฬิกาอัจฉริยะแกแลคซี่เกียร์ที่ว่านี้ สามารถแจ้งเตือนให้รับรู้ถึงการเรียกเข้าของสัญญาณโทรศัพท์ แจ้งเตือนการได้รับข้อความ รวมไปถึงอีเมล โดยการเชื่อมโยงสัญญาณเข้ากับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เอี่ยม "แกแลคซี่โน้ต-3"

ค่ายซัมซุงเลือกที่จะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ตัวนี้ใน งาน "IFA Consumer Tech" ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา และวางแผนปล่อยอาละวาดตามท้องตลาดใน 140 ประเทศทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้เป็นต้นไป

การแจ้งเกิดนาฬิกาอัจฉริยะของค่ายซัมซุงนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ทั่วกันว่านับจากนี้ไปตลาดนาฬิกาโลกจะมีการต่อสู้แข่งขันที่ดุเด็ดเผ็ดร้อนอย่างไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

ก่อนหน้านี้ค่ายโมโตโรล่า ภายใต้บังเหียนของกูเกิล หรือค่ายโซนี่ และค่ายคาสิโอ รวมทั้งค่ายแอปเปิล ได้ชิงแจ้งเกิดนาฬิกาอัจฉริยะล่วงหน้านำร่องไปก่อนแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ประเมินว่ากระแสนิยมในนาฬิกาอัจฉริยะที่มีแนวโน้มเข้มข้นมากขึ้นนี้ คือตัวบ่งชี้ถึงคุณค่าความสำคัญของระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบ "ก้อนเมฆ" หรือ "Cloud" ที่จะถูกยกระดับสูงขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การเข้าถึงข้อมูลได้ทุกหนทุกแห่ง ผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลายไร้ขีดจำกัด

ในโลกธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ได้จำกัดความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นอยู่เฉพาะค่ายซัมซุงเท่านั้น แต่ในเวลาไล่เลี่ยกันค่ายแอปเปิลก็สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการ ด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ไอโฟนเวอร์ชั่นใหม่ พร้อมกันถึง 2 รุ่นคือไอโฟน 5-ซี และไอโฟน 5-เอส ที่ยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพการบันทึกภาพที่แจ่มแจ๋วแหววยิ่งขึ้น

ค่ายไมโครซอฟท์ ก็มีการเคลื่อนไหวปรับโครงสร้างธุรกิจจากที่เคยผูกพันอยู่กับโลกของซอฟต์แวร์ในรูปของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เข้าสู่โลกของฮาร์ดแวร์มากขึ้น ในรูปของแท็บเล็ต "เซอร์เฟซ" หรือแม้กระทั่งการทุ่มเงินเข้าซื้อกิจการ "สไกป์" (Skype) ด้วยเงิน 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทุ่มเงินก้อนขนาด 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าซื้อกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่ายโนเกีย

ค่ายเวอไรซอนคอมมูนิเคชั่นอิงค์ ก็เทกระเป๋าทุ่มเงิน 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าฮุบกิจการของโวด้าโฟนกรุ๊ป

ข้างฝ่ายค่ายกูเกิล ฉีกมิติความเคลื่อนไหวโดยหันไปจับมือกับค่ายเนสท์เล่ พัฒนาขนมขบเคี้ยวช็อกโกแลต คิทแคท เป็นรูปตราสัญลักษณ์ "แอนดรอยด์" พร้อมกับสอดแทรกสัญลักษณ์นี้เข้าไปในเว็บไซต์ของคิท-แคท เพื่อนำร่องก่อนที่จะปล่อยซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ในชื่อ "แอนดรอยด์คิท-แคท"

โลกของการแข่งขันทางธุรกิจไม่เพียง "ไร้กรอบ" แต่ยัง "ไร้พรมแดน" อย่างสิ้นเชิง