โกลด์ซิตี้ ฯ เดินเกมรุกตลาดรองเท้าผ้าใบ สู่ตลาดระดับกลาง มุ่งออนไลน์

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561

โกลด์ซิตี้ ฯ เดินเกมรุกตลาดรองเท้าผ้าใบ สู่ตลาดระดับกลาง มุ่งออนไลน์


นายสุรศักดิ์ จินาพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลด์ซิตี้ ฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย รองเท้าครบวงจร ภายใต้Brand GoldCity, Fast, Chang, GC, Gold Sport ฯลฯ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทแบ่งการผลิตออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. รับผลิตให้แบรนด์ดังหรือหน่วยงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ 2. รับออกแบบและผลิตสินค้าให้บริษัทที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง 3. การทำแบรนด์ของตนเอง โดยการผลิตในส่วนข้อ 1-2 มียอดการผลิตโดยรวมกว่า 6 ล้านคู่ต่อปี และในส่วนแบรนด์ของบริษัทฯ หรือ OBM มีสัดส่วนการผลิตมากสุด คือ รองเท้านักเรียน ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 25% จัดเป็นอันดับที่ 3 ของตลาดรองเท้า มียอดขายอยู่ที่ 20 ล้านคู่ หรือคิดเป็นมูลค่า5,000 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 33% เนื่องจากมีการออกสินค้าใหม่และส่งเสริมการขายในทุกช่องทางและทำกิจกรรมสื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม บริษัทเล็งเห็นว่าตลาดรองเท้าระดับกลางราคาราว 500-1,200 บาท นั้นยังเป็นตลาดที่น่าสนใจที่ยังมีช่องวางทางโอกาสอยู่มากเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเน้นไปเจาะระดับราคาต่ำกว่า 500 บาท ถือเป็นตลาดระดับล่าง และราคาสูงกว่า 1,200 บาท ที่เป็นระดับบน มากกว่าที่จะสนใจตลาดระดับกลาง ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมจะขยายทำตลาดในกลุมดังกล่าว เพราะยังไม่มีการแข่งขันที่สูงและยังมีผู้ประกอบการน้อยรายอยู่ในตลาดขณะนี้ 

ล่าสุด เราได้นำ “เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ” เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกของสินค้าเพื่อต้องการสื่อสารความเป็นไทยให้ทั่วโลกรู้จักเหมือนกับแบรนด์โกลด์ซิตี้ ซึ่งตรงต่อกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ คือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มเริ่มทำงาน ที่มองหาต้นแบบการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเอง และเก่งได้มีส่วนร่วมในการออกแบบรองเท้ารุ่น KENG2 รุ่นในซีรีส์ “เก่งให้สุด…อย่าหยุดเก่ง” คือ รุ่นเก่ง Original และเก่งAdvance ซึ่งกลยุทธ์ที่เรานำมาใช้นี้คือ Design Collaboration มาใช้จะช่วยผลักดันยอดขายและสร้างภาพลักษณ์ให้แก่โกลด์ซิตี้

โดยบริษัทได้วางงบประมาณตลาดไว้กว่า 25 ล้านบาท ตลอดทั้งปี ในการวางแผนการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วยการใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่าน Music Marketing สื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ (online) ด้วย MV กับเพลงใจยักษ์, วิทยุ (Spot Radio) และทีวี (Spot TVC) พร้อมตั้งเป้ายอดขายของสินค้ารุ่นเก่งอยู่ประมาณ 120,000 คู่ต่อปี และคาดหวังยอดขายสินค้าโดยรวมทั้งกลุ่มบริษัทว่าจะเติบโตที่ 10%ภายในปี 2561

นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นด้านการขยายตลาด-สินค้า โดยเพิ่มสัดส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรด อย่างโรบินสัน ซึ่งปัจจุบันนี้มีสาขาอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ อุดรธานี พิษณุโลก สุรินทร์ และมีวางจำหน่ายเพิ่มสาขาขึ้นเรื่อยๆในอนาคต รวมถึงช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้นซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 5%  โดยมีการขายผ่านเว๊บไซต์ของบริษัท และขายผ่านมาร์เกตเพลซต่างๆ เช่น ลาซาด้า และ ช้อปปี้ เปินต้น ซึ่งที่ผ่านมาเน้นการขาย แต่จากนี้จะเน้นการทำตลาดและการโปรโมต การจัดแคมเปญมากขึ้นอีกด้วย และเน้นเพิ่มยอดขายในตลาดรองเท้านักเรียน และรองเท้าแฟชั่น ด้วยการกระจายสินค้ารองเท้านักเรียน, แฟชั่น และถุงเท้าไปยังตัวแทนที่ขายทั้งรองเท้านักเรียนและแฟชั่นอยู่แล้วที่ยังไม่มีสินค้าครบ

"แม้ว่าตลาดรวมรองเท้าผ้าใบในไทยปีนี้จะยังคงนิ่งและไม่เติบโตมากนัก โดยเฉพาะตลาดระดับล่างที่มีราคาคู่ละต่ำกว่า 500  บาทลงมา ตกมากที่สุด 10% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 5,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมาบริษัทก็ยังคงสามารถปรับแผนกลยุทธ์จนทำให้ยังผลประกอบการที่ดี โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี สัดส่วนรายได้ในไทย 500 ล้านบาท มาจาก รองเท้านักเรียน 70% และรองเท้าแฟชั่น30% ส่วนอีก 500 ล้านบาทจากต่างประเทศ ทั้งแบรนด์ตัวเองและรับจ้างผลิต”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ