กิฟฟารีนมอบให้ด้วยใจเพื่อส่งเสริมด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนของชาติ ด้วยการมอบทุนการศึกษาใน “กองทุนมงคลปิยะสุพรรณกัลยา” และ “มูลนิธิสุพรีเดอร์มมงคลปิยะ” ประจำปี 2561 โดยการสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาแบบให้เปล่าแก่นักเรียนที่ขาดบิดาหรือมารดา และขาดผู้อุปถัมภ์ พร้อมช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเด็กไทยให้มีโอกาสทางการศึกษาที่ก้าวไกล และประกอบอาชีพในอนาคตตามที่ใฝ่ฝัน จนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 รวมมูลค่ากว่า 33.7 ล้านบาท

แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ในฐานะประธานกองทุนเกล่าวว่า “กองทุนฯ นี้เราจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี  เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้น้องๆ ในการศึกษาเล่าเรียน และเติบโตเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก คนที่เฉื่อยชา คนที่ไม่พร้อมที่จะผลักดันตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น จะเป็นคนที่อยู่ในสังคมนี้ยากขึ้น เพราะฉะนั้นแม้ว่าน้องๆ จะมีบางส่วนที่ขาดหาย แต่ก็ยังมีกองทุนคอยดูแล มีพี่ๆ ในกองทุนคอยดูแล ไม่ใช่ดูแลเรื่องเงินอย่างเดียว แต่ดูแลหัวใจของน้องๆ ด้วย ในฐานะตัวแทนผู้บริหารกิฟฟารีนทุกท่าน  ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ  ทุกคนอีกครั้ง และก็ดีใจที่เห็นน้องๆ ทุกคนยังให้ความสำคัญกับการเรียน ขอเป็นตัวแทนพี่ๆ จากกิฟฟารีนร่วมเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนตั้งใจเรียนให้มากๆ ประสบความสำเร็จในการเรียน และเป็นคนดีของครอบครัวและประเทศชาติต่อไป ที่สำคัญอยากให้น้องๆ เพิ่มเติมความรู้  พัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้าน และเป็นผู้รู้จักให้  รู้จักแบ่งปันให้กับสังคมกันด้วย

สำหรับพิธีมอบทุนการศึกษาในปีนี้ ประกอบไปด้วย ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 มอบทุนการศึกษา 13,000 บาทต่อปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มอบทุนการศึกษา 15,400 บาทต่อปี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มอบทุนการศึกษา 19,000 บาทต่อปี และระดับอุดมศึกษา มอบทุนการศึกษา 25,000 บาทต่อปี รวม 45 ทุน และนักเรียนจากมูลนิธิสุพรีเดอร์มมงคลปิยะ ที่ให้การสนับสนุนทางการศึกษาแก่นักเรียนและให้โอกาสแก่ผู้ยากไร้ รวมเป็นเงินกว่า 1,800,000 บาท

ด้าน นางสาวอินทิรา ศรสงวน หรือ มะนาว ผู้ได้รับทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจนเรียนจบจาก ม.เกษตรศาสตร์ คณะวิทยาการการจัดการ โลจิสติกส์ บอกว่า “รู้สึกดีใจที่ได้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ โดยใช้เงินจากกองทุนนี้ในการศึกษา โดยได้รับทุนจากการแนะนำของอาจารย์ เป้าหมายในอนาคต อยากทำงาน และมีหน้าที่การงานที่ดี สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ ทำประโยชน์เพื่อสังคมได้ สำหรับคนที่ขัดสนด้านทุนทรัพย์ แล้วอยากศึกษาต่อ อาจจะต้องปรึกษากับอาจารย์ที่โรงเรียน อาจารย์จะได้แนะนำ แล้วถ้าเราได้รับโอกาสนั้นแล้วก็ต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญถ้าเรามีรายได้เพียงพอในระดับหนึ่งก็อยากช่วยบริจาคเงินให้น้องๆ ได้รับโอกาสทางการศึกษาแบบเราด้วย น้องจะได้มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นค่ะ”