"เจเอแอล" ปันใจซื้อ "แอร์บัส" ครั้งแรก "โบอิ้ง" หนาวหลัง "ดรีมไลเนอร์" มีปัญหาแบตเตอรี่

วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556



เจเอแอล สายการบินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ทะลายกำแพงผูกขายตลาด เครื่องบินขนาดใหญ่ ปันใจสั่งซื้อเครื่อง บินแอร์บัส 350 จำนวน 31 เครื่อง เป็นครั้งแรก หลังเป็นลูกค้าของโบอิ้ง มานาน ก่อนสั่งเพิ่มอีก 25 ลำ หลังเจอ เครื่องบินรุ่นดรีมไลเนอร์ เจอปัญหาแบตเตอรี่

"แอร์บัส" ชนะใจ "เจเอแอล" ซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวนมากถึง 56 ลำจากแอร์บัส นับเป็นครั้งแรกที่เจเอแอลสั่งซื้อเครื่องบินจากผู้ผลิตยุโรปเห็นชอบซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวนมากถึง 56 ลำจากแอร์บัส นับเป็นครั้งแรกที่เจเอแอลสั่งซื้อเครื่องบินจากผู้ผลิตยุโรปแห่งนี้

เจแปน แอร์ไลน์ส หรือเจเอแอล สายการบินของญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สั่งซื้อเครื่องบินโดยสาร ของบริษัทแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินยุโรป รุ่น เอ350 ซึ่งเป็นอากาศยานพิสัยบินระยะไกล จำนวน 31 ลำ มูลค่ารวมกว่า 9,500 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 294,500 ล้าน บาท) นับเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่แอร์บัสสามารถแย่งลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งเดิมผูก ขาดอยู่กับบริษัทโบอิ้งมาได้

นอกจากนี้ เจเอแอล ยังมีทีท่าว่าจะสั่งซื้อเครื่องบินจากแอร์บัสเพิ่มอีก 25 ลำ ซึ่งหากบริษัททั้งสองบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างกัน เจเอแอลจะมีเครื่อง บินของแอร์บัสจำนวน 56 ลำ สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ350 ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของเครื่องบิน 787 ดรีมไลเนอร์ ของบริษัทโบอิ้ง ที่มีปัญหาหลายจุด ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้การส่งมอบเครื่องบินให้กับสายการบินทั้งหลายมีทีท่าว่าจะล่าช้า อีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านเทคนิคอื่นๆ อีกด้วย

นายโยชิฮารุ อูเอคิ ประธานเจเอแอล กล่าวว่า เครื่องบิน 31 ลำชุดแรกจะมีมูลค่าประมาณ 9.5 พันล้านดอลลาร์ และเริ่มให้บริการได้ในปี 2562 เป็นต้นไป เครื่องแอร์บัส เอ 350 รุ่น เอ็กซ์ดับ เบิลยูบี มีประสิทธิภาพและความสามารถ ในการแข่งขันในระดับสูง

ขณะที่ นายฟาบริซ บรีเยร์ หัวหน้า คณะเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัส กล่าวว่า บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง ที่ญี่ปุ่น สั่งซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ เอ 350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี เป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ในระหว่างประกาศข้อตกลงสั่งซื้อเครื่องบินกับแอร์บัส เมื่อวันจันทร์ (7ต.ค.) เจเอแอล ได้ระบุถึงข้อดีของ A350 ว่าผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบาที่ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้มาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกับที่โบอิ้งใช้โฆษณาความ เหนือชั้นของของดรีมไลเนอร์

ด้าน นายสก็อตต์ แฮมิลตัน นักวิเคราะห์อากาศยานจากบริษัทลีแฮม ใน ซีแอตเติล กล่าวว่า นี่ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่สำหรับแอร์บัส และความปราชัย อันใหญ่หลวงของโบอิง แอร์บัส ที่พยายาม ผูกขาดเครื่องบินลำตัวกว้างมานานหลาย สิบปีของโบอิง และโบอิ้งก็ต้องการกันแอร์บัสออกจากเจเอแอลและเอเอ็นเอเช่นเดียวกันด้วย

โดยสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นที่ใช้เครื่องบินรุ่นล่าสุดของโบอิ้ง ทั้ง ออล นิปปอน แอร์เวย์ส หรือเอเอ็นเอ และเจเอแอล ต่างระงับการนำเครื่องโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ ขึ้นบิน เช่นเดียว กับสายการบินอื่นๆ จากปัญหาเรื่องแบตเตอรีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และนำเครื่องบินกลับมาให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 มิถุนายน

ที่ผ่านมา โบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่อง บินจากสหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ญี่ปุ่น และความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ลึกซึ้งระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ จนสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดของโบอิงไว้ได้กว่า 80%

อย่างไรก็ตาม การส่งมอบเครื่อง 787 ดรีมไลเนอร์ล่าช้า ประกอบกับปัญหาต่อเนื่องจากเครื่องบินที่จอดหลังเกิดเหตุแบตเตอรี่ความร้อนสูง ทำให้สายการบินญี่ปุ่น หันไปหาคู่แข่งของโบอิ้ง คือ แอร์บัส

ด้าน มิตซุรุ มิยาซากิ นักวิเคราะห์ จากสถาบันวิจัย SMBC Friend ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า จากปัญหาที่ผ่านๆ มาของเครื่องบินรุ่น ดรีมไลเนอร์ ทำให้ เจเอแอล ไม่ต้องการเสี่ยงอีก เนื่องจาก วงการบินถือเป็นอุตสาหกรรมระดับโลก จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ เจเอแอล จะต้องเผื่อทางเลือกเอาไว้บ้าง ที่ผ่านมาแม้ โออิ้งจะใช้เวลาตรวจสอบยาวนาน แต่กลับไม่เคยชี้แจงข้อบกพร่องที่ชัดเจนของแบตเตอรี่ในเครื่องบินดรีมไลเนอร์ โดยระบุแต่เพียงว่า ได้มีมาตรการแก้ไขไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำอีกแล้ว


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ