วิกฤติงบประมาณทุบเศรษฐกิจอเมริกา มูลค่าความเสียหายวันละหมื่นล้าน

วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิกฤติงบประมาณทุบเศรษฐกิจอเมริกา มูลค่าความเสียหายวันละหมื่นล้าน


สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤติงบประมาณครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 18 ปี โดยมีสาเหตุสำคัญที่สุดมาจากประเด็น "ฮั้ว" ผลประโยชน์ไม่ลงตัวระหว่างฝ่ายรัฐบาล ที่มีพรรคเดโมแครตกุมบังเหียนกับฝ่ายนิติบัญญัติ ภายใต้อิทธิพลพรรครีพับลิกัน

กฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพฉบับโอบามา หรือที่ถูกเรียกขานกันว่า "โอบามาแคร์" คือชนวนเหตุแห่งการ "งัดข้อ" กันระหว่างพรรคเดโมแครตฝ่ายรัฐบาล กับพรรครีพับลิกัน ฝ่ายค้าน กระทั่งนำไปสู่วิกฤติงบประมาณปี 2557 เนื่องจากล่วงผ่านวันเริ่มต้นปีงบประมาณไปแล้ว แต่กฎหมายงบประมาณยังไม่ผ่านความเห็นจากรัฐสภา

ท่าทีของฝ่ายค้านต้องการให้รัฐบาลชะลอการบังคับใช้กฎหมายหลักประกันสุขภาพออกไป 1 ปี เพื่อลดภาระรายจ่ายของงบประมาณ แลกเปลี่ยนกับการที่ฝ่ายค้านจะยอมยกมือสนับสนุนการขยายเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลสำหรับงบประมาณปี 2557 ให้ขยับเพิ่มขึ้นจากที่ถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 16.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในทางตรงกันข้ามประธานาธิบดีโอบามา ยืนกรานปฏิเสธข้อแลกเปลี่ยนของฝ่ายค้าน และยืนยันที่จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายหลักประกันสุขภาพฉบับใหม่ เพื่อยกระดับการให้ความคุ้มครองสุขภาพแก่ประชาชน

เมื่อเวลาประมาณ12.25 น.ของวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดวิกฤติงบประมาณ ซึ่งก่อให้เกิด ปรากฏการณ์ "ธุรกรรมรัฐบาลสลบเหมือด" หรือ "Government Shutdown" ไปแล้วกว่า 12 ชั่วโมง ประธานาธิบดีโอบามา ได้ออกมาแถลงยืนยันจุดยืนการเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายหลักประกันสุขภาพ เพื่อขยายขอบเขตความคุ้มครอง ด้านสุขภาพแก่ชาวอเมริกันร้อยละ 15 ไม่มีขีดความสามารถในการเข้าถึงบริการ สุขภาพให้ได้รับการคุ้มครองดูแลด้านสุขภาพ

สาระสำคัญในคำแถลงของโอบามา นอกจากการให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจใส่เกียร์เดินหน้าขับเคลื่อนกฎหมายหลักประกันสุขภาพฉบับใหม่แบบ "หักดิบ" ข้อแลกเปลี่ยนกับฝ่ายค้านแล้ว ยังฉวยจังหวะโจมตีฝ่ายค้านอย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่าวิกฤติงบประมาณที่นำไปสู่ปรากฏการณ์ Government Shutdown ถือเป็นการทำร้ายประชาชนของพรรครีพับลิกัน พร้อมกับเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันเลิกใช้เงื่อนไขการเมืองรังแกประชาชน

ยิ่งไปกว่านั้น โอบามา ยังสาธยายเพิ่มเติมอีกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันมักแสดงพฤติกรรม ขัดขวางการผลักดันร่างกฎหมายของรัฐบาลที่มุ่งประโยชน์ต่อประชาชน โดยการนำเรื่องไปร้องต่อศาลสูงสุด เพื่อหน่วงเหนี่ยวกระบวนการผลักดันร่างกฎหมาย

ดูปฏิกิริยาท่าทีแข็งกร้าวชนิดยอมหักไม่ยอมงอของประธานาธิบดีโอบามาแบบนี้แล้ว ชะรอยว่าเหตุการณ์ธุรกรรมรัฐบาลสลบเหมือดที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการมาแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม น่าจะยังคงสลบไสลไม่ได้สติไปอีกหลายต่อหลายวัน

สำนักวิจัยเศรษฐกิจ "ไอเอชเอสอิงค์" ประเมินผลพวงจากเหตุการณ์ธุรกรรมสลบเหมือด อันเนื่องมาจากความไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 จะสร้างความย่อยยับแก่ระบบเศรษฐกิจขนาด 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของอเมริกาสูงลิบลิ่วถึงวันละ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเฉียดๆ หมื่นล้านบาท

นั่นหมายถึงว่าหากเหตุการณ์นี้ยืดเยื้อยาวนาน 21 วัน เท่ากับระยะเวลาที่เคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อ 18 ปีก่อน จะก่อเกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจสูงถึง 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 190,000 ล้านบาท

"กี เลอบาส" นักวิเคราะห์กลยุทธ์เศรษฐกิจ แห่งสำนักจอนนี่มอนต์โกเมอรี่สก็อตต์ในฟิลาเดลเฟีย ประเมินว่า ความอัปยศที่กำลังเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจอเมริกาตอนนี้ จะทำให้เกิดความระส่ำระสายในระบบสังคม ระบบครอบครัวชาวอเมริกันอย่างน้อย 1,000,000 ครอบครัว ที่ต้องพึ่งพาเงินได้จากการรับจ้างทำงานกับหน่วยงานรัฐบาลซึ่งจำเป็นต้อง "หยุดงาน"

"อีธาน แฮร์ริส" หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ แห่งแบงก์ออฟอเมริกาเมอร์ริลล์คอร์ป คำนวณว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ หากทอดเวลาเนิ่นยาวถึง 2 สัปดาห์ จะฉุดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายให้ทรุดตัวลงร้อยละ 0.5 และหากเลวร้ายถึงขั้นธุรกรรมรัฐบาลสลบเหมือดยาวตลอดเดือนตุลาคมนี้ จะทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจหดหายไปถึงร้อยละ 2

เมื่อระบบเศรษฐกิจอเมริกามีแนวโน้มที่จะบาดเจ็บบอบช้ำแสนสาหัสแบบนี้ ย่อมหมายถึงระบบเศรษฐกิจนานาประเทศทั่วโลกที่ยึดโยงอยู่กับอเมริกาจะต้องสะบักสะบอมตามไปด้วยอย่างยากจะ "หลีกภัย"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ