ปัจจุบันนี้ชาวเกษตรกรไทยหันมาปลูกพืชผสมผสานกันค่อนข้างมาก สำหรับการปลูกพืชลักษณะดังกล่าวริเริ่มมาจากหลักแนวคิดการทำเกษตรพอเพียงตามคำแนะนำของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ต้องการให้เกษตรกรพึ่งพาตนเอง และให้มีการปลูกพืชหลาย ๆ ชนิด เพื่อสดความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาต่าง ๆ โดยไม่เจาะจงชนิดของพืชที่ปลูก
โดยการปลูกกล้วยแซมมะละกอก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปลูกพืชแบบผสมผสานที่เกษตรกรไทยนิยมนำไปปลูกกัน ซึ่งล่าสุดนี้ ทางทีมงานสยามธุรกิจ ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ “เจ้าของไร่สุขพอเพียง” ที่ได้นำหลักแนวคิดการปลูกพืชแบบผสมผสานนี้นำไปใช้กับไร่ของตนเอง
คุณ ทรงศักดิ์ ปัญญาประชุม เจ้าของไร่สุขพอเพียง จังหวัดสกลนคร เล่าให้ทาง สยามธุรกิจ ฟังว่า ไร่สุขพอเพียง มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 70 ไร่ และได้ทำการลูกพืชหลักก็คือ กล้วย และมีพืชแซม ทั้งมะละกอ ฟัก และมะเขือพวง เป็นต้น ซึ่งทางสวนจะเน้นเกษตรอินทรีย์ 100% และได้รับการรับรองจาก GAP (Good Agriculture Practice) หรือที่แปลเป็นไทยว่า การปฏิบัติการเกษตรที่ดี
“ที่ไร่สุขพอเพียง จะจัดส่งกล้วยให้กับห้างโรบินสัน เป็นหลัก และก็มีที่บ้านกล้วย จังหวัดสกลนครด้วย โดยจะมีหน้าไร่เป็นสาขาที่ 1 เพื่อให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชม และซื้อขายได้เลย และที่ไร่สุขพอเพียง จะทำการขายตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ เพื่อที่จะสามารถควบคุมดูแลให้กล้วยที่ไร่ปลอดสารเคมี 100%”
สำหรับราคาขายของกล้วยนั้น จะขายแบบชั่งเป็นกิโลกรัม ซึ่งจะมีราคากิโลกรัมละ 35-40 บาท ก็จะตกอยู่ที่หวีละประมาณ 100-120 บาท และถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าท้องตลาด แต่ก็เป็นที่สนใจต่อผู้บริโภค เพราะเป็นกล้วยปลอดสารเคมี 100% จึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้รักสุขภาพ
เจ้าของไร่สุขพอเพียง เล่าต่อว่า จากอดีตนั้น ที่ไร่สุขพอเพียงก็เกิดปัญหาเรื่องศัตรูพืชเช่นกัน ซึ่งก็หาวิธีจัดการมาเรื่อยๆ จนได้มารู้จักกับทีมงานของสยามธุรกิจ ที่ได้แนะนำให้รู้จักกับปุ๋ยอินทรีย์ สูตรของสยามธุรกิจ และที่ไร่สุขพอเพียงก็เน้นเรื่องอินทรีย์อยู่แล้ว ก็ได้เริ่มใช้ทันทีเต็มระบบทั้ง 70 ไร่
ทั้งนี้ จากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สูตรของสยามธุรกิจแล้ว กล้วยที่เคยได้เครือละประมาณ 4-5 หวี ก็จะได้มากถึง 6-8 หวี ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่สำคัญลูกเรียงสวยงาม เท่าเทียมกันทุกลูก ผิวกล้วยสวยมาก จึงส่งผลให้ราคากล้วยที่ไร่สูขพอเพียงมีราคาที่สูง เป็นที่ต้องการของตลาด
ในส่วนของพืชที่ปลูกแซมนั้น จากเดิมการปลูกพืชแซมกล้วยจะไม่ค่อยได้ผล เพราะกล้วยมีใบที่ปลกคลุมพื้นที่แสงทะลุเข้ามาน้อย แต่ที่ไร่สุขพิเพียง สามารถปลูกมะละกอ มะเขือพวง และฟักแซมได้สบาย และไม่มีการแย่งอาหารกันด้วย จึงมั่นใจในคุณภาพของปุ๋ยอินทรีย์ สูตรสยามธุรกิจ และไม่เปลี่ยนใจไปใช้ยี่ห้ออื่นอีกแน่นอน
“หลังจากใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจแล้ว เราได้ทดลองปลูกพืชแซมกล้วย โดยมีทั้งมะละกอ มะเขือพวง และฟัก ซึ่งมะละกอนั้น จะต้องการแสงเป็นอย่างมาก แต่สามารถปลูกแซมกับกล้วยได้ และได้ทำการปลูกมะละกอแซมกล้วยเต็มที่ โดยในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกกล้วยได้ 400 ต้น ก็จัดมะละกอลงไปด้วย 400 ต้น และยังมีมะเขือพวง และฟักอีก ใส่จนเต็มพื้นที่ แต่แปลกใจอยู่กันได้ดี และลูกดก ลูกสวย ราคาดีอีกด้วย โดยเฉพาะมะเขือพวง ราคาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งถือว่าได้ราคาดีมาก ส่วนฟักนั้น มีคนนำมาประกอบอาหาร ใส่ไก่ ใส่หมู ตามสูตรเลย ปรากฏว่า มีคนทานฟักหมด เหลือแต่ไก่ กับหมู เพราะว่า หอม หวาน อร่อย และมีคนถามว่า ทำไมฟักอร่อยแบบนี้ ใส่สารอะไรหรือเปล่า ก็บอกไปตามตรงว่า ใช้สูตรสยามธุรกิจ และเป็นอินทรีย์แท้ 100%”
อย่างไรก็ตาม การสังเกตว่าพื้นที่เพาะปลูกเป็นอินทรีย์หรือไม่ ดูง่ายๆ จากพื้นที่มีไส้เดือนอยู่ได้ไหม มีจิ้งหรีดอยู่ได้หรือเปล่า ถ้ามีแสดงว่าพื้นที่นั้นน่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีต้องทดลองมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจ และขอการันตีว่า เป็นอินทรีย์คุณภาพอย่างแน่นอน เพราะที่ไร่สุขพอเพียงใช้แล้วประสบความสำเร็จ
