นวัตกรรมการปลูกข้าวมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำนาแบบกล้าโยน การทำนาหว่าน นาดำ หรือแม้แต่การใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วย เป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น แต่นวัตกรรมเหล่านี้ ยังไม่สามารถตอบโจทย์ การเพิ่มผลผลิตได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญยังต้องเพิ่งพาเมล็ดพันธุ์
ในเร็วๆนี้ คนไทยจะได้พบกับนวัตกรรมใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นั้นคือ การปลูกข้าวด้วยตอซังวิธีใหม่ ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมากจากพระราชดำริ ได้ศึกษาวิจัยจนพบว่า ข้าวที่ปลูกจากตอซังนั้น ให้ผลผลิตที่ดีต้านทานโรคและยังมีความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ถึง 99.5%
นายนพดล โค้วสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์ฯห้วยฮ้องไคร้ กล่าวว่า การขยายผลโครงการพระราชดำริได้วิจัยขยายพันธุ์ข้าวโดยใช้ตอซังได้ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก
พร้อมนำออกเผยแพร่นำข้าวพันธุ์พื้นเมืองเดิม พันธุ์สันป่าตอง 1 ที่เกี่ยวแล้วเหลือตอซังประมาณ 5 ซม.แล้วให้น้ำต่อจะได้ต้นข้าวออกใหม่ ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูก จะไม่เหมือนข้าวล้มต่อ ทำให้ได้ความบริสุทธิ์เมล็ดพันธุ์ ทั้งหมดในรอบต่อไปดีกว่าปลูกนาปรังและนาปีเพราะประหยัดต้นทุนได้120 วัน ใน 1 ปีปลูกได้ถึง 4 รอบ มีปริมาณผลผลิตดี 650-700 กก.ต่อไร่
วิธีปลูกนั้น เริ่มจากการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ต้องไม่เป็นข้าวไวแสงซึ่งที่นิยมคือ ข้าวสันป่าตอง 1 ปลูกครั้งแรกใช้วิธีปักดำใช้กล้าอายุ 25-30 วัน หรือ ปลูกโดยกล้าโยนอายุกล้า 12-15 วัน หลังปลูกข้าวดูแลรักษาแปลงข้าว ใส่ปัจจัยการผลิตรักษาระดับน้ำในแปลงนาตามคำแนะนำของกรมการข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิต จากนั้นเก็บเกี่ยวในระยะพลับพลึงอย่าเกี่ยวช้าเกินไปหรือแก่จัด เพื่อรักษาต้นข้าวหรือตอซังไว้ เพื่อเลี้ยงเอาหน่อข้าวรอบที่ 2 เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวแล้วต้องทำการตัดตอซังที่ระดับเหลือไว้ 5 ซม. ปล่อยน้ำเข้าแปลงตอซังที่ระดับ 3-5 ซม. ใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 อัตรา 3 กก.ต่อไร่ เพื่อกระตุ้นการแตกหน่อข้าว
ผ่านไป 3-5 วัน หน่อข้าวเริ่มแตกขึ้นใหม่ ดูแลรักษาระดับน้ำอย่าให้แห้งเพราะหน่อข้าวจะอยู่โค่นต้นเดิม เมื่อหน่อข้าวอายุได้ 15-20 วัน จะสมบูรณ์มากพร้อมแยกหน่อไปปลูก วิธีการแยกหน่อจากตอซังอย่าให้รากต้นกล้าขาดแล้วมัดเป็นกำๆ แยกหน่อที่สมบูรณ์ไปปลูกเมื่อนำหน่อข้าวไปปลูกในพื้นที่ที่เตรียมไว้โดยใช้ต้นกล้าหรือหน่อข้าว 1-3 ต้นต่อกอ
สำหรับพื้นที่ปลูกตามวิธีนี้ เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานหรือมีแหล่งน้ำที่เหมาะสม เขตภาคเหนือตอนบน สามารถปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง
“ขณะนี้กำลังทดลองพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี 1 ด้วย นอกจากนี้ยังทดลองปลูกไม้ผลด้วยระบบ ไฮโดโพนิกส์ ไม่ต้องใช้ดิน ได้สำเร็จสามารถเร่งออกดอกได้เร็วขึ้นเช่น มะนาว ในปีแรกให้ออกผลได้ รวมทั้งองุ่น แคนตาลูป ซึ่งผลสำเร็จนี้เผยแพร่สู่สาธารณชนนับเป็นก้าวใหม่ของศูนย์ ”หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์ฯห้วยฮ้องไคร้ กล่าว
สำหรับศูนย์ฯห้วยฮ่องไคร้ ทำหน้าที่เสมือน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต หรือสรุปผลการพัฒนาที่ประชาชนจะเข้าไปเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้จริง และนำผลสำเร็จของงานวิจัยกว่า 250 เรื่อง มาขยายผลให้แก่เกษตรกรและบุคคลทั่วไป จำนวน 23 หลักสูตร ได้ดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง