"วิกฤติงบฯมะกัน" ทุบอุตสาหกรรมการบิน แนวโน้มส่อเค้าก่อวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556



วิกฤติงบประมาณ ซึ่งเกิดจากกลเกมการชิงไหวชิงพริบระหว่างนักการเมืองต่างขั้ว ที่นำไปสู่ปรากฏการณ์ "ธุรกรรมรัฐบาลสลบไสล" หรือ "Government Shutdown" ในสังคมอเมริกัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา กำลังแพร่กระจายความย่อยยับแก่ระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

รัศมีความวิบัติอันเนื่องมาจากพฤติกรรม "เห็นแก่ตัว" ของนักการเมืองไม่ว่าจะขั้วรัฐบาล ภายใต้อิทธิพลของพรรคเดโมแครต ที่มีประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นหัวขบวนหรือขั้วฝ่ายค้าน ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพรรครีพับลิกัน นับวันจะขยายวงกินขอบเขตกว้างขวางมากขึ้นไปทุกที

แรกเริ่มเดิมทีที่เกิดวิกฤติงบประมาณ ผลกระทบช่วงสัปดาห์แรก จำกัดวงแคบอยู่เฉพาะพนักงานลูกจ้างรัฐบาลจำนวนประมาณ 1 ล้านคน ที่ต้องหยุดงาน และขาดรายได้ทันที

ลูกจ้างรัฐบาลบางคนเกิดความเครียดรุนแรงที่ต้องขาดรายได้แบบปัจจุบันทันด่วน และอับจนปัญญาหารายได้เสริมไปชำระหนี้สินที่เป็นเงินกู้ซื้อบ้านกับสถาบันการเงิน ได้เลือกทาง "แก้เครียด" ด้วยการห้อตะบึงรถพุ่งเข้าชนแนวกั้นทางเข้าอาคารรัฐสภา

ล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ผลพวงความอัปยศจากวิกฤติงบประมาณ ที่ทำให้กลไกการทำงานของหน่วยงานรัฐจำนวนมากมายก่ายกองถูกบังคับให้เป็น "อัมพาต" ส่งผลให้รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีชี้วัดความเป็นไปในระบบเศรษฐกิจของทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงานที่เคยมีการจัดทำเผยแพร่เป็นประจำ มีอันต้อง "ขาดหาย" ไป ด้วยเหตุผล "ขาดงบประมาณดำเนินการ"

ล่าสุดบริษัทล็อคฮีทมาร์ติน ซึ่งทำมาหากินผูกพันอยู่กับงบประมาณรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 80 ของยอดรายได้ทั้งหมด ได้ตัดสินใจสั่ง "พักงาน" พนักงานจำนวน 3,000 คน ไปแล้ว

บริษัทยูไนเต็ดเทคโนโลยี ซึ่งทำธุรกรรมเกี่ยวพันกับการสร้างเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ "แบล็คฮอว์ค" และระบบควบคุมอากาศยาน ได้ประกาศ "พักงาน" พนักงานจำนวน 2,000 คน ไปแล้ว และจะขยายจำนวนการพักงานพนักงานเป็น 5,000 คน หากวิกฤติงบประมาณยังไม่ได้รับการแก้ไข

บริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินโดยสารรายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ก็ถูกกระทบจากวิกฤติงบประมาณ เนื่องจากสำนักงานควบคุมการบริหารอากาศยาน หรือ Federal Aviation Administration Inspection ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบรับรองมาตรฐานคุณภาพอากาศยานก่อนการส่งมอบ "ปิดการให้บริการ" ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเรื่อยมา ทำให้ค่ายโบอิ้ง ไม่สามารถส่งมอบเครื่องบินแก่สายการบินไปตามกำหนดเวลา

สิ่งที่ตามมาจากผลพวงของวิกฤติงบประมาณ คือนักธุรกิจ นักลงทุนเกิดความ "วังเวง" ไม่สามารถรับรู้ถึงสุขภาพแท้จริงของระบบเศรษฐกิจ เพื่อใช้ประกอบการวางแผนดำเนินการธุรกรรมทางธุรกิจ

พ่อมดตลาดหุ้นอย่าง "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประธานบริษัทเบิร์กเชียร์แฮทอะเวย์ ถึงกับออกปากว่า Govern ment Shutdown มีอานุภาพการทำลายล้างรุนแรงไม่ต่างจากระเบิดปรมาณู

ผลจากความขัดสนข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดนิวยอร์กช่วงสัปดาห์ ที่ 2 ของเดือนตุลาคม ให้ทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์การลงทุนในวอลล์สตรีทจำนวนมากกำลังหวาดหวั่นขวัญผวากับเกม "งัดข้อ" ระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน ที่มีร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 และชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมืองชาวอเมริกันเป็น "ตัวประกัน" โดยเกรงว่าหากล่วงเข้าสู่วันที่ 17 ตุลาคมนี้ แล้วยังคงไม่สามารถฮั้วกันได้ลงตัว จะทำให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลทำให้ระบบการเงินพังพินาศ และตลาดตราสารหนี้วินาศสันตะโร นำพาเศรษฐกิจอเมริกาดำดิ่งลงสู่ห้วงเหวแห่งความตกต่ำทางเศรษฐกิจอย่างแสนสาหัส

บรรดานักวิเคระห์ยังหวั่นเกรงด้วยว่าห้วงจังหวะเวลาเดียวกันนั้น อาจเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุการณ์ "แบลคมันเดย์" ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันของเดือนตุลาคม เมื่อ 26 ปีที่แล้ว

หากสถานการณ์เลวร้ายรุนแรงถึงขั้นนั้นประชาคมเศรษฐกิจในโลกใบนี้มีหวังต้องโศกศัลย์ทั่วกันแน่นอน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ