นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า บริษัทใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท จัดงาน ‘เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2018’ ภายใต้คอนเซปต์ “ครบ ใหม่ คุ้ม” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ “ครบ” ทุกเทรนด์และระดับราคา “ใหม่” คือ คอลเล็กชั่นล่าสุดจาก 2 งานนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิลด์ และ งานเอสไอเอชเอช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะมาถึงประเทศไทยในช่วงเวลานี้ พอดี และ “คุ้ม” ทุกการช็อปฯ นาฬิกาทุกเรือนจากงานนี้ จะได้รับข้อเสนอดีที่สุด คุ้มที่สุดในรอบปี กับทุกสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับจากบัตรเครดิตชั้นนำ
“เราใช้กลยุทธ์ Target Marketing คือมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง ตามไลฟ์สไตล์หรือความสนใจเฉพาะของลูกค้า ผ่านการสื่อสารทั้งในและต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทย เราสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคผ่านสื่อทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1,200,000 คน, Instagram มากกว่า 55,000 คน และ Central's LINE Official Account กว่า 6 ล้านคน พร้อมด้วยบริการใหม่ล่าสุดที่ห้างเซ็นทรัลริเริ่มเป็นห้างแรกในประเทศไทย คือ Central on Demand ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น Central Chat & Shop (เริ่มใช้ 1 กันยายนนี้) ให้ช็อปปิ้งผ่านแอพพลิเคชั่น LINE ด้วยการแชทสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าในห้างเซ็นทรัลและเซนกับพนักงานได้”
ทั้งนี้ เรามีช่องทางการสื่อสารครอบคลุมทั้ง 360 องศา โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยและมีกำลังซื้อสูง ห้างเซ็นทรัลมีแอคเคาต์บนโซเชียลมีเดียชั้นนำของจีนอย่าง Weibo ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน และ ZENMegastore ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 8 หมื่นคน เมื่อเราทราบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เราจะทำ Geo Marketing โดยการ Push Notification ตรงไปยังกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างการรับรู้ในช่วงเวลานั้น เชิญชวนเข้ามาใช้บริการที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม หรือสาขาต่างๆ ในจังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ลูกค้าชาวจีนเดินทางไปเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา บริษัทเชื่อว่าปีนี้ตลาดนาฬิกาจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และสามารถกระตุ้นยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน หรือประมาณ 500 ล้านบาท ถือว่าเติบโตมากกว่า GDP ประเทศ ซึ่งอยู่ที่ 3.4%”
นางสาวปิยวรรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรามั่นใจว่ากาจัดงานปีนี้จะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุน และสะสมเป็นหลักคนไทยซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุน เพราะนาฬิกาจะปรับมูลค่าขึ้นทุกปี ปีละ 10% เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะแบรนด์ยอดนิยม จะใช้วัสดุที่มีคุณค่า เช่น ทอง เพชร ทองคำขาว ซึ่งราคาวัตถุดิบเหล่านี้จะปรับราคาขึ้นตามราคาตลาด และมีมูลค่าสูง จึงทำให้นาฬิกามีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยจัดงานใหญ่ที่อีเวนต์ฮออล์ และแผนกนาฬิกา ในห้างเซ็นทรัลและเซน 22 สาขา ทั่วประเทศ
