นาย ฮิเดคาสึ  อิโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย  กล่าวว่า สำหรับพานาโซนิคทั่วโลกมีรายได้รวมในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา มูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท เติบโต 9% จากนโยบาย 3 หมวด  ได้แก่ Living Space, Mobility และ Business to Business หรือ B2B ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการดำเนินธุรกิจให้เติบโตในระยะยาวในตลาดทั่วโลก โดยได้ทางพานาโซนิคแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจหลัก  ได้แก่ สัดส่วนการขายในไทย 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้ของทั่วโลกอยู่ที่ 32% , 2.Eco Solutions Company หรือES ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโคมไฟ อุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบน้ำ วัสดุตกแต่งภายในบ้าน ระบบระบายอากาศ เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ อุปกรณ์รักษาพยาบาล จักรยานไฟฟ้า สัดส่วนรายได้ในไทย 95% ส่วนทั่วโลกสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20%,

3.Connected Solution Company หรือ CNS นำเสนอโซลูชั่นการพัฒนา การเชื่อมต่อระบบ การบำรุงรักษา ระบบปฎิบัติการ สัดส่วนรายได้ในไทย 2% แต่สัดส่วนของทั่วโลกอยู่ที่ส่วนรายได้ทั่วโลกลอยู่ที่ 14% และ 4.Automative & Industrial Systems Companuy หรือ AIS ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบข้อมูลและความบันเทิงในรถยนต์ อุปกรณ์มัลติมีเดีย แบตเตอรี่ ในรถยนต์ และ ขิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับอุตสาหกรรม สัดส่วนรายได้ 59% ขณะที่สัดส่วนรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 34%

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทยปงบประมาณ 2560 ที่ผานมา ( เมษายน 2560 – มีนาคม 2561) อยู่ประมาณ 91,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการขายเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้ กลุ่ม AP  30% / กลุ่ม ES  9% / กลุ่ม CNS  2%  และกลุ่ม AIS 59%  โดยในครึ่งปีแรกของปีนี้เรายอมรับว่า รายได้รวมติดลบ 5% เนื่องจากสินค้าบางกลุ่มมีการแข่งขันสูง เช่น เครื่อ่งปรับอากาศ สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่เย็นเร็วและนานรวมทั้งมีฝนต่อเนื่อง จึงทำให้ตลาดแอร์ยอดขายไม่โตมาก แต่คาดว่าทั้งปีจะสามารถผลักดันรายได้รวมให้กลับมาเติบโตได้ 2-3% ซึ่งกลุ่มพานาโซนิคตั้งเป้าหมายรายได้รวมในไทยภายในปี 2563 (เมษายน 2563 - มีนาคม 2564) ไว้ประมาณ 100,000 ล้านบาท

“จากนโยบายการดำเนินงานของพานาโซนิคประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ในไทยเราได้นำนโยบายดังกล่าวมาใช้ เช่นกัน ซึ่งจะเน้นให้ความสำคัญกับการทำตลาดในหมวด Living Space ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Appliances Company (AP) และ Eco Solutions Company (ES) โดยตั้งเป้าสู่การเป็นไลฟ์สไตล์ โพรไวเดอร์เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า สู่ผู้บริโภคชาวไทยผ่านสินค้าและนวัตกรรมระดับพรีเมี่ยม  พร้อมไปกับจะใช้แนวคิดการทำงานการทำตลาดแบบ Aspire to More คือการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้ไร้ข้อจำกัดผ่านสินค้าและเทคโนโลยีจากพานาโซนิคที่ให้ความสำคัญ 3 ด้านภายใต้มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น คือ ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ดีไซน์ระดับพรีเมียม และการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย หรือ Local Fit เพื่อเป็นท็อปพรีเมี่ยมแบรนด์ในใจของผู้บริโภคให้ได้ในปี2563”