ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเปรียบเสมือนเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของชาติไทย เพราะเป็นพื้นที่ทำนาที่ดีที่สุดอีกพื้นที่หนึ่งในประเทศไทย แต่ก็เป็นที่ทราบดีกว่า เมื่อน้ำเหนือลงมาทีไร พื้นที่นาก็จะจมน้ำมิดปลิดชีพข้าวตายเกลื่อน ส่งผลให้เกิดความเสียหายค่อนข้างสูง มิหน่ำซ้ำราคาข้าวยังมีราคาที่ถูก ส่งผลให้ชาวนามีรายจ่ายมากกว่ารายรับ

จากบทเรียนที่ผ่านมา มีชาวนาหลายต่อหลายคนได้สลัดความเชื่อเดิมๆ ทิ้งไปจนหมดสิ้น และเปลี่ยนพื้นที่ท้องนาให้เป็นพืชชนิดอื่นแทน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับครอบครัว เช่นเดียวกับ “สมชาย ผสมทรัพย์” ที่ได้เปลี่ยนแนวคิดจากการทำนาและหันมาปลูกสวนอินทผลัมแทน

ดังนั้นทีมข่าว “สยามธุรกิจ” จึงได้ลงพื้นที่ตำบลกระจิว อำเภอผาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมไร่ ชมสวน นายสมชาย ผสมทรัพย์ หลังจากได้เปิดใจใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจเต็มระบบ 100%

นายสมชาย ผสมทรัพย์ เจ้าของสวนอินทผลัม จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากอดีตได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดทำนา เพราะพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาส่วนใหญ่จะทำนา แต่ชาวนาไม่ใช่อาชีพที่มีรายได้ดี แถมยังมีแต่ทุนจม เพราะราคาข้าวค่อนข้างถูก ดังนั้น จึงได้เปลี่ยนแนวคิดมาปลูกมะนาว แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ สุดท้ายจึงหันมาปลูกอินทผลัมแทนตั้งแต่ปี 2557 หรือเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา

“การปลูกอินทผลัม ถือเป็นความเสี่ยง เพราะเราไม่เคยทำ แต่เมื่อปลูกมาได้ 2 ปี ลูกอินทผลัมก็ออกผลมา ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถปลูกให้มีลูกได้ แต่ว่ายังมีจั่นที่น้อยมาก โดยในจำนวน 1 ต้น จะมีเพียงแค่ 5 จั่นเอง แต่ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ถึง 100,000 บาท”

อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ได้รู้จักกับทีมงานสยามธุกิจ และได้รับคำแนะนำให้รู้จักกับปุ๋ยอินทรีย์ สูตรสยามธุรกิจ จึงได้เริ่มเปิดใจทดลองใช้ เพราะเรามีต้นอินทผลัมเพียงแค่ 9 ต้นเอง ดีไม่ดีจะได้รู้ผลเลย แต่เมื่อเริ่มใช้ตามคำแนะนำของทีมงานสยามธุกิจแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ ดีมากจากเมื่อปีที่แล้วได้ผลผลิตต้นละ 5 จั่น มาปี 2561 นี้ ได้มากถึงต้นละ 11 จั่น และมีบางต้นได้สูงถึง 15 จั่นเลยทีเดียว

“จากอดีตเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ปุ๋ยอะไรถึงจะดีต่อต้นอินทผลัม แต่เมื่อได้รู้จักปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจแล้ว ส่งผลดีต่ออินทผลัมของเรามาก และดีหมดทั้ง 9 ต้น จากต้นที่ไม่เคยออกผลเลยก็ออกผลดกมาก โดยเฉลี่ยแล้วจะได้ต้นละ 11 จั่น จากปีที่แล้วเพียง 5 จั่น และมีบางต้นได้สูงถึง 15 จั่น ที่สำคัญลูกไม่ร่วงด้วย จึงสามารถประมาณการณ์คร่าวๆ ได้ว่า น่าจะมีรายได้เข้ามาปีนี้มากถึง 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีรายได้เติบโตขึ้นถึง 10 เท่าทีเดียว ทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง”

นายสมชาย กล่าวอีกว่า ในอนาคตได้เตรียมพื้นที่เพาะปลูกไว้เพิ่มประมาณ 13 ไร่ เพราะได้มีผู้ช่วยที่ดีอย่างปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจแล้ว และมีความพร้อมที่จะใช้เต็มระบบ 100% ทั้งนี้ ยังได้เพาะปลูกต้นอินทผลัมไว้เพื่อจำหน่ายด้วย เพื่อที่จะให้พี่น้อยชาวเกษตรได้นำไปปลูก เพื่อยกระดับฐานะให้กับครอบครัวตัวเอง และเชื่อว่า จะดีกว่าการทำนาอย่างแน่นอน เพราะว่า ราคาอินทผลัมนั้น มีราคาหน้าสวนสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 400 บาทเลยทีเดียว

“อยากให้พี่น้องชาวนาลองหันมาปลูกอินทผลัมดู เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวให้ดีขึ้น ทั้งนี้ การปลูกอินทผลัมนั้น ถ้าเริ่มเข้าใจและรู้วิธีการดูแลแล้วก็จะเป็นเรื่องง่าย และถ้ามีปุ๋ยที่ดีก็จะดีตามไปด้วย ที่สำคัญถ้ามีปุ๋ยอินทรีย์มาใช้ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพตัวเองและผู้บริโภคด้วย ซึ่งเรื่องปุ๋ยอินทรีย์นั้น อยากจะแนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจ เพราะมีธาตุอาหารครบทั้งทางดิน ทางใบ ทางลูก ถือว่าตอบโจทย์พี่น้องชาวเกษตรเป็นอย่างดี ที่สำคัญช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้พี่น้องชาวเกษตรกรไทยด้วย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ข่าวและศูนย์กลางการเรียนรู้สยามธุรกิจอีก 60 สาขาทั่วประเทศ และยังมีเอเย่นต์ตำบล 800 กว่าเอเย่นทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการด้วย จึงมั่นใจได้ในเรื่องการบริการ อย่างไรก็ดี ถ้าพี่น้องชาวเกษตรท่านใดสนใจชมสวน หรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อได้ที่ 08-9412-4001 ยินดีให้คำชี้แนะได้ทุกเมื่อ”