"กูเกิล"บานฉ่ำรายได้ดีกำไรเด่นราคาหุ้นติดจรวด

วันเสาร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556



ในที่สุดรายการ "ปาหี่ตอนขยายเพดานหนี้" บนเวทีการเมืองอเมริกัน ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเมื่อฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล สามารถ "ฮั้ว" ผลประโยชน์ระหว่างกันได้ลงตัว ซึ่งถือเป็น "อัตลักษณ์" ร่วมกันของนักการเมืองในประเทศทุนนิยมระบอบประชาธิปไตยทั้งหลาย ขณะค่ายกูเกิลอิงค์ กอบโกย รายได้กำไรอย่างเป็นล่ำเป็นสันในโลกธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ

รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือนของค่ายกูเกิลอิงค์ ระบุว่า ยอดรวมของรายได้โตขึ้นร้อยละ 12 ไปแตะระดับ 14,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผลกำไรอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นร้อยละ 36 พุ่งทะยานขึ้นไปถึง 2,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในยอดรวมของรายได้ 14,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำแนกออกเป็นรายได้ที่เกิดจากการขายโฆษณาใน โลกออนไลน์ทั้งบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมไปถึงบนคอมพิวเตอร์พีซี จำนวน 11,920 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 26 และ เป็นยอดรายได้ที่เหนือความคาดหมายของบรรดานักวิเคราะห์ธุรกิจส่วนใหญ่ที่คาดการณ์รายได้ส่วนนี้ไว้แค่ 11,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้โฆษณาออนไลน์ของกูเกิลขยายตัวสูงขึ้นมาก เป็นผลมาจากการดำเนินโครงการที่เรียกกันว่า "enhanced campaigns" ซึ่งอำนวยความสะดวกแก่บรรดานักวางแผนซื้อสื่อโฆษณา ทั้งหลายในการใช้สื่อโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครบวงจร ทั้งบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พีซี

"อีมาร์เก็ตเตอร์อิงค์" ซึ่งทำธุรกรรมด้านข้อมูลตลาดโฆษณาออนไลน์ พยากรณ์ล่วงหน้าว่าส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์ของค่ายกูเกิลอิงค์ในรอบปีนี้ น่าจะขยับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 31 เมื่อปีที่แล้ว เป็นร้อยละ 36

ผลพวงจากผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างน่าชื่นใจของค่ายกูเกิลอิงค์ ผลักดันความเคลื่อนไหวของ ระดับราคาหุ้นกูเกิลให้พุ่งทะลุ 900 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป ก่อนที่จะกลับมาเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 880-900 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

สวนทางกับความเคลื่อนไหวที่สดใสของค่ายกูเกิล คือความเคลื่อนไหวของค่ายแอปเปิลที่เข็นไอโฟน 5ซี และ 5เอส ออกสู่ตลาด แต่ยอดขายกลับอืดยิ่งกว่าเรือเกลือโดยเฉพาะยอดขายไอโฟน 5ซี แถมยอดขายไอแพดยังแผ่วลงอีก

ล่าสุด ทิม คุก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ค่ายแอปเปิล เตรียมดันไอแพดเวอร์ชั่นใหม่ออก สู่ตลาด พร้อมๆ กับคอมพิวเตอร์พีซี "แมคโปร" รุ่นใหม่ และระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์พีซีเวอร์ชั่นใหม่ภายใต้รหัส "มาเวอร์ริคส์" หวังจะปลุกเร้ายอดขาย ตลอดจนรายได้ให้คึกคักมีชีวิตชีวา

ยิ่งไปกว่านั้น ทิม คุก ยังเปิดปฏิบัติการแหวกวงการ ด้วยการไปดูด 2 นักบริหารระดับสูงจากวงการแฟชั่นมาร่วมงาน ราวกับต้องการส่งสัญญาณบอกใบ้ให้ได้รู้ทั่วกันว่าทิศทางการพัฒนาของค่ายแอปเปิล จะก้าวสู่ความเป็นสินค้าแฟชั่นชั้นสูง

"Paul Deneve" อดีตซีอีโอของค่ายอีฟต์แซงต์ โรลองต์ แห่งฝรั่งเศส และ "Angela Ahrendts" ซีอีโอคนปัจจุบันของค่ายเบอเบอรี่แห่งอังกฤษ คือบุคคลที่ถูกทิม คุก ดึงตัวมาเสริมทัพในค่ายแอปเปิล

เขาวางตัว Paul Deneve ให้ดูแลรับผิดชอบโครงการ พิเศษทั้งหมด และมอบหมายให้ Angela Ahrendts ทำหน้าที่รองประธานด้านค้าปลีกและตลาดออนไลน์

ความคิดแปลกและแหวกของทิม คุก จะทำให้ชีพจรธุรกิจของแอปเปิลกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาหรือไม่เป็นสิ่งที่ต้องรอเวลาพิสูจน์ทราบกันในช่วงปีหน้า

อย่างไรก็ตาม หากพินิจพิจารณาฝีไม้ลายมือของ Angela Ahrendts ขณะทำหน้าที่ซีอีโอค่ายเบอเบอรี่ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่หมายเลข 1 แห่งวงการแฟชั่นชั้นสูงของ อังกฤษ น่าจะสร้างความมีชีวิตชีวาแก่ค่ายแอปเปิลได้ดี เนื่องจากเธอผู้นี้คือผู้สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญแก่ค่ายเบอเบอรี่ ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ของเบอเบอรี่เข้าสู่ตลาด ออนไลน์ และมีบทบาทอย่างสูงในการสร้างเครือข่ายการ กระจายผลิตภัณฑ์ของเบอเบอรี่ให้ครอบคลุมไป ทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้รายได้ของเบอเบอรี่ดีวันดีคืน ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่กระจายตัวไปทั่วทั้งสหภาพยุโรป

เฉพาะช่วงเมษายน-กันยายนปีนี้ ภายใต้บังเหียนของ Angela Ahrendts ยอดขายของเบอเบอรี่โตขึ้นถึงร้อยละ 20 ไปแตะระดับ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทันทีที่ Angela Ahrendts ตัดสินใจตีจากไปร่วมงานกับค่ายแอปเปิล โดยจะมีผลกลางปี 2557 แต่คณะกรรมการของเบอเบอรี่ มีมติแต่งตั้ง Christopher Bailey ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการออกแบบสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้ขึ้นมาสวมตำแหน่ง ซีอีโอแทนที่ Angela Ahrendts รองรับเอาไว้เรียบร้อยไปแล้ว


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ