ทุนจีนรุกจู่โจมตลาดอสังหาฯอเมริกากลุ่มฝอซัน ยึดแมนฮัตตันพลาซ่า สำเร็จ

วันเสาร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทุนจีนรุกจู่โจมตลาดอสังหาฯอเมริกากลุ่มฝอซัน ยึดแมนฮัตตันพลาซ่า สำเร็จ


กระแสเงินลงทุนของเหล่า เศรษฐี มหาเศรษฐีสัญชาติจีน กำลัง มีทิศทางการเคลื่อนตัวเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในดินแดนสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งหน้าจู่โจมเป้าหมาย สำคัญใน 3 มหานคร คือนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และลอสแองเจลิส

ล่าสุด กลุ่มฝอซันอินเตอร์เนชั่นแนล แห่งประเทศจีน ซึ่งมีฐานที่มั่นในมหานครเซี่ยงไฮ้ และมีอาณาจักรธุรกิจครอบคลุมกว้างขวางทั้งเวชภัณฑ์ เหล็ก เหมืองทองคำ ค้าปลีก บริการทางการเงิน และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ในกลุ่มคลับเมด สัญชาติฝรั่งเศส สามารถบรรลุข้อตกลงซื้ออาคารศูนย์การค้า "แมนฮัตตันพลาซ่า" กับธนาคารเจพีมอร์แกนเชส ในวงเงิน 725 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความสำเร็จของกลุ่มฝอซันอินเตอร์เนชั่นแนล ในการครอบครองศูนย์การค้าแมนฮัตตันพลาซ่า ไม่ต่างอะไรกับการที่กลุ่มฝอซันฯสามารถยึดครอง "กล่องดวงใจ" ของมหานครนิวยอร์กมาไว้ในกำมือ

ศูนย์การค้าแมนฮัตตันพลาซ่า เป็นอาคารเก่าแก่ที่อยู่เคียงคู่มหานครนิวยอร์กมายาวนานกว่า 52 ปี มีขนาดความสูง 60 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 204,000 ตารางเมตร ถูกออกแบบโดย "กอร์ดอน บันชาร์ฟ" ซึ่งเป็นยอดสถาปนิกชั้นครูในขณะนั้น

ทำเลที่ตั้งของศูนย์การค้าแมนฮัตตันพลาซ่า ได้รับการคัดสรรด้วยความพิถีพิถันให้อยู่ในทำเลซึ่งเปรียบ ประดุจ "ไข่แดง" ของมหานครนิวยอร์ก โดย "เดวิด ร็อคกี้เฟลเลอร์" มหาเศรษฐีนักบุญ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของธนาคารเชสแมนฮัตตัน ในตอนนั้น ด้วยความตั้งใจให้อาคารแห่งนี้เป็นสำนักงานใหญ่ที่งามสง่าภูมิฐานของธนาคาร

กลุ่มโซโหไชน่า ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในกรุงปักกิ่ง เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่รุกเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา และประสบความสำเร็จในการฮุบอาคาร เยนเนอรัลมอเตอร์ (ยีเอ็ม) ซึ่งเคยถูกใช้เป็นกองบัญชาการใหญ่ของอาณาจักรอุตสาหกรรมรถยนต์อันดับ 1 ของอเมริกา ที่รู้จักกันดีในชื่อ "ยีเอ็ม" หรือ "เยนเนอรัลมอเตอร์" ในย่านมิดทาวน์แมนฮัตตัน

กลุ่มกรีนแลนด์โฮลดิ้งกรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ อยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ ก็เคลื่อนย้ายเงินลงทุนออกจาก ถิ่นฐานบ้านเกิดเข้าไปลงทุนในโครงการแอตแลนติกยาร์ด ซึ่งมีทั้งอาคารพักอาศัยและอาคารศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านบรุคลิน ใกล้ชิดติดกับมหานครนิวยอร์ก

"แดน ฟาซูโล" กรรมการผู้จัดการ บริษัทเรียลแคปปิตอลอนาไลติค ซึ่งดำเนินกิจการด้านข้อมูลสถิติการลงทุนสะท้อนพฤติกรรมการลงทุนของทุนสัญชาติจีน โดยระบุว่ากลุ่มทุนจีน จะให้ความสนใจลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา โดยเน้นในทำเลที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สดใส

ข้อมูลของเรียลแคปปิตอลอนาไลติค บอกว่า ใน รอบ 9 เดือนของปีนี้ กระแสเงินลงทุนจากประเทศ จีนไหลบ่าเข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกามากที่สุดเป็นอันดับ 1 เหนือกว่านักลงทุนต่างชาติทุกสัญชาติ โดยมีจำนวนเงินลงทุนสูงถึง 1,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กลุ่มนักลงทุนสัญชาติแคนาดา คือกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกามากเป็นอันดับ 2 รองจากทุนจีน ด้วยจำนวนเงินลงทุน 1,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

"ไซมอน โหล" ผู้อำนวยการ บริหารคอลเลียร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งดำเนินธุรกิจนายหน้าค้าอสังหา ริมทรัพย์บอกว่าทุนจีนตอนนี้มีมากมายมหาศาล และสอดส่ายแสวงหาแหล่งลงทุนที่มีแนวโน้มได้รับผลตอบแทนที่ดีทั่วทุกพื้นที่ในโลก

"ไซมอน โหล" ให้ความเห็นว่าต้นสายปลายเหตุสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนจีนให้นิยมชมชื่นในการเข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกามีอยู่เพียงประการเดียวคือ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งซึมเซาเหงาหงอยมานานหลายปี น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ในอนาคตอันใกล้นี้ และถึงตอนนั้นผลตอบแทนจากการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่หว่านเอาไว้ น่าจะให้ดอกผลอย่างเป็นกอบเป็นกำ

สรุปรวมความได้ง่ายๆ ว่าตอนนี้เศรษฐี นายทุนจีนทุ่มเดิมพันซื้ออนาคตการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากันชนิด "หมดหน้าตัก"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ