บล.ทิสโก้แนะเดือนก.ค.ทยอยสะสมหุ้นรอขายทำกำไรไตรมาส1ปี62

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

บล.ทิสโก้แนะเดือนก.ค.ทยอยสะสมหุ้นรอขายทำกำไรไตรมาส1ปี62


บล.ทิสโก้แนะทยอยสะสมหุ้นในเดือนก.ค.รอขายช่วงไตรมาส 1/2562 ชี้ปีหน้าปัจจัยลบรออีกเพียบ ทั้งสภาพคล่องติดลบ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย และตราสารหนี้มีโอกาสเข้าสู่ ภาวะ Invert คาดเห็นดัชนีต่ำสุดที่ 1,450 จุด 

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้ าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ (Mr.Viwat Techapoonphol, Deputy Managing Director, Head of Technical Analysis, TISCO Securities Co., Ltd) กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้ นไทยในงานสัมมนา TISCO Monthly Guru Updates ว่า ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้ นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นอื่ นๆ ในภูมิภาค ตามความกังวลเรื่องการปรับขึ้ นอัตราดอกเบี้ ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้ น (P/E) ของไทยปรับลงมาอยู่ที่ 14 เท่า ณ ดัชนีที่ 1,585 จุด ถือเป็นระดับที่ต่ำมากเมื่อเที ยบกับค่าเฉลี่ยในอดีต และหากพิจารณาตามปัจจัยทางเทคนิ คแล้วประเมินว่าในเดือนกรกฎาคม 2561 ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสดีดตัวขึ้ นแตะแนวต้านที่ 1,650 -1,670 จุดได้ จากนั้นจะปรับลงสู่แนวรับที่ 1,540-1,580 จุดอีกครั้ง ตามสถานการณ์ตลาดทั่วโลกที่มี ความไม่แน่นอนสูง

อย่างไรก็ตาม  ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนมิถุนายน 2561 นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยแล้ วกว่า 1.8 แสนล้านบาท หากยังขายต่อคาดการณ์ว่าจะมีปริ มาณไม่เกิน 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปี แรก ขณะที่ในปีนี้ประเทศไทยยังมีปั จจัยบวกเรื่องการเลือกตั้งรออยู่ โดยคาดว่ารัฐบาลจะประกาศวันเลื อกตั้งภายในเดือนกันยายน 2561 ดังนั้น ในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนธั นวาคม 2561 ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตั วขึ้นไปอยู่ที่ 1,750-1,800 จุด ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับดั ชนีเมื่อต้นปี 2561 ส่งผลให้อั ตราผลตอบแทนโดยรวมจากการลงทุ นในตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะอยู่ที่ ระดับประมาณ 0%

ขณะที่ในปี 2562 จะมีปัจจัยลบมากมายจากทั่วโลก ทั้งสภาพคล่องที่ลดลงจนอยู่ ในระดับติดลบครั้งแรกในรอบ 10 ปี เนื่องจากการดำเนิ นนโยบายทางการเงิ นของธนาคารกลางทั่วโลกเข้มงวดขึ้ น แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังคงอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ ระบบอยู่ก็ตาม แต่ไม่เพียงพอต่อสภาพคล่องที่ Fed และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดึงออกจากระบบ

ประกอบกับ Fed น่าจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอี ก 2 ครั้งในปี 2561 และ 3 ครั้งในปี 2562 ซึ่งจะทำให้เงินไหลกลับไปลงทุ นสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรั ฐฯ ประเด็นสุดท้ายคืออั ตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรั ฐฯ อายุ 10 ปี เริ่มทรงตัวในระดับต่ำที่ประมาณ 3.0% ซึ่งเป็นกังวลว่าอาจจะทำให้อั ตราผลตอบแทนของพันธบัตรรั ฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นสูงกว่าพันธบัตรระยะยาว (Invert) และนั่นเป็นสั ญญาณของภาวะเศรษฐกิจทั่ วโลกถดถอย ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเข้าสู่ขาลง จึงประเมินว่าหากสถานการณ์เป็ นไปตามคาดในปี 2562 หุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนติดลบ 14% โดยดัชนีสูงสุดของปีจะอยู่ที่ 1,800 จุด และดัชนีต่ำสุดที่ประมาณ 1,450 จุด

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในช่วงนี้ แนะนำให้อาศัยจังหวะที่หุ้นปรั บตัวลดลงในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ทยอยซื้อสะสม จากนั้นให้ถือต่อและรอขายในช่ วงไตรมาส 1 ปี 2562 โดยเดือนกรกฎาคมมีหุ้นเด่นที่ คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2561 จะออกมาดี และมีปันผลระหว่างกาล คือ ANAN, INTUCH, IVL, KKP, MINT และ SCC

ทั้งนี้ งานสัมมนา TISCO Monthly GURU Updates เป็นหนึ่งในกิจกรรมสัมมนาที่จั ดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนเพื่ อเผยแพร่บทวิเคราะห์และทิ ศทางการลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้ าทิสโก้และนักลงทุนบรรลุเป้ าหมายทางการเงิน ตามกลยุทธ์ของทิสโก้ในการเป็นผู้ แนะนำการลงทุนชั้นนำหรือ Top Advisory House



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ