เงาะเป็นผลไม้ยืนต้นที่นิยมปลูกและนิยมบริโภคกันอยู่อย่างแพร่หลายในขณะนี้ นับวันจะแพร่หลายยิ่งขึ้นทุกที เพราะปลูกได้ง่าย มีโรคร้ายแรงน้อย เมื่อเทียบกับไม้ผลอื่นๆ เงาะต้องการความชุ่มชื้นมากพอสมควร  ดังนั้น แหล่งปลูกเงาะของประเทศไทยจึงนิยมปลูกกันอยู่ที่ภาคตะวันออกและภาคใต้  ส่วนภาคอีสานมีการปลูกเงาะได้ในบางจังหวัด  ทำให้การปลูกเงาะอาจจะมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในบางพื้นที่ในภาคอีสานที่มีความแห้งแล้ง 

แต่ทว่า ทางทีมงานสยามธุรกิจ ได้เดินทางลงไปยังภาคอีสาน  ในจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อไปเยี่ยมชมพูดคุยกับเจ้าของสวนเงาะที่จังหวัดดังกล่าว  เพื่อสอบถามถึงเคล็ดลับว่าทำไมสวนเงาะของเขาถึงสามารถปลูกเงาะและมีผลผลิตออกมาสวยงาม จำนวนมากได้ แม้ว่าจะปลูกในพื้นที่สภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งในแถบภาคอีสาน

ในที่สุดเราก็ได้พบและพูดคุยกับ  “คุณพ่อใหญ่ลอน เกษี เจ้าของสวนเงาะ ต.เชียงข้าว อ.ศรีรัต จ.ศรีสะเกษ”  ที่ได้เล่าให้กับทางทีมงานสยามธุรกิจฟังว่า ตนเองทำการปลูกสวนแบบผสมในพื้นที่ 19 ไร่ ซึ่งมีทั้งเงาะ ทุเรียน ยางพารา มันสำปะหลัง ส้มโอ และลำไย เป็นต้น แต่สิ่งที่อยากพูดและแนะนำให้รู้จักนั้นก็คือ เงาะโรงเรียนที่ได้ปลูกไว้ 20 ต้น ที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูก ปลอดภัยต่อผู้บริโภคแน่นอน

สำหรับเงาะโรงเรียนที่ปลูกนั้น มีอายุราวๆ 15 ปี แต่ผลผลิตที่ผ่านมาจะประสบปัญหาเกี่ยวกับกลุ่มศัตรูพืช เช่น เพลี้ยชนิดต่างๆ รวมทั้งขั้วของเงาะจะไม่แข็งแรง ร่วงง่าย ผลผลิตจริงน้อย รายได้ของครอบครัวจึงไม่ค่อยมากนัก เมื่อมีปัญหาดังที่กล่าวมาก็ต้องการที่จะหาวิธีจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนมีทีมผู้บริหารของสยามธุรกิจเข้ามาให้ความรู้ และแนะนำให้ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจ

“ช่วงแรกได้ทดลองใช้กับยางพารา ซึ่งก็ได้ผลดี จึงได้นำมาใช้กับสวนเงาะบ้าง แต่ด้วยที่ทุนน้อยจึงใส่เพียงนิดเดียว แต่ผลที่ได้ก็คือ ลูกออกมาดกมาก จากปี 2560 ที่ผ่านมา ลูกออกมาเพียงต้นละประมาณ 100 กิโลกรัม แต่เมื่อใช้อินทรีย์ของสยามธุรกิจแล้ว ลูกออกมามากถึง 200-300 กิโลกรัม/ต้น และมีบางต้นออกลูกมากถึง 400-500 กิโลกรัมทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก ที่สำคัญพอฉีดอินทรีย์ของสยามธุรกิจ แมลงที่เป็นศัตรูพืชจะหนีไปเอง ซึ่งแปลกมาก แต่แมลงที่ไม่เป็นศัตรู เช่นไส้เดือน และจักจั่น ยังอยู่เช่นเดิม”

อย่างไรก็ดี การใส่ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจ ทั้งโชบุพลัส ซุปเปอร์ริทชี่โกร์ว และริทชี่เพาเวอร์ ต้องทำตามวิธีที่ทางผู้บริหารของสยามธุรกิจแนะนำ ถึงจะได้ผลดี เพราะเคยทดลองใช้ 15 วัน/ครั้งแล้ว ได้ผลไม่ค่อยดี และไม่เป็นไปตามที่ทีมผู้บริหารของสยามธุรกิจแนะนำ ดังนั้น จึงปรับมาใช้ 7 วัน/ครั้ง ผลลัพธ์จึงออกมาดีอย่างที่ต้องการ

“ปีนี้เป็นปีที่เงาะดกมาก ต้นเงาะแข็งแรง ขั้วแข็งแรง ขนสวย เปลือกเงาะบาง เนื้อเงาะล่อน รสหวาน ลูกใหญ่กว่าปีที่ผ่านมามาก ซึ่งทำให้เงาะมีน้ำหนักมากขึ้น และจากอดีตที่ผ่านมาราคาขายส่งจะอยู่เพียงแค่ 10 บาท/กิโลกรัม ขายปลีกอยู่ที่ 15 บาท/กิโลกรัม แต่ปัจจุบันราคาขายส่งอยู่ที่ 30 บาท/กิโลกรัม และขายปลีกอยู่ที่ 35 บาท/กิโลกรัม และถ้าใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจถูกวิธีแต่แรกอาจจะได้ขายก่อนชาวบ้าน เพราะถ้าขายก่อนชาวบ้านราคาจะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาททีเดียว ต่อแต่นี้ไปจะทำให้ถูกวิธีและก็จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจเต็มทั้งระบบแน่นอน”