การออมสำหรับผมก็คงเหมือนกับหลายๆ คน คือเมื่อได้เงินมาแล้วก็เก็บออมไว้ส่วนหนึ่ง เพราะการออมเงินเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อชีวิต ถ้าคนเราไม่รู้จักการออมเงิน มีเงินเท่าไหร่ก็ใช้หมด เวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินจำเป็นที่จะต้องใช้เงินขึ้นมาเราก็อาจจะลำบากได้

จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร หรือ ฮัท เดอะ สตาร์ 8 หนุ่มตี๋หน้าใสแห่งบ้านเดอะสตาร์ ได้มาบอกเล่าถึงเคล็ดการออมเงินว่า สำหรับ คนที่มีรายได้แล้วควรจะรู้จักการออมเงินก็คือเมื่อมีรายได้แล้วก็เก็บออมไว้ส่วนหนึ่ง แล้วก็ใช้ในชีวิตประจำวันอีกส่วนหนึ่ง อาจจะให้รางวัลตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง หรือเอา ไปทำอะไรที่มีประโยชน์กับตัวเองและสังคม เช่น ทำบุญ หรือช่วยเหลือสังคม ช่วยเลี้ยง เด็กตามโครงการต่างๆ

ส่วนตัวแล้วที่ผ่านมาส่วนมากก็จะเก็บครึ่งหนึ่ง ใช้ครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าช่วงไหนที่ใช้เงินน้อยก็จะเก็บมากขึ้น สำหรับผมถือว่า ทำงานมีเงินเป็นของตัวเองแล้ว ค่าใช้จ่าย ส่วนตัวต่างๆ ก็จะออกเอง ไม่อยากไปรบกวน พ่อแม่ เพราะถือว่าเราก็สามารถช่วยเหลือ ตัวเองได้แล้ว

ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังเรียนอยู่ แต่ผมก็มีแผนว่า เมื่อเรียนจบแล้ว จะเอาเงินที่ออมไว้มาทำธุรกิจ เพราะการจะทำธุรกิจก็ต้องใช้เงินลงทุนเยอะพอสมควร ก็ต้องเก็บออมไปเรื่อยๆ ก่อน เมื่อถึงวันที่เราพร้อมเจออะไรที่ใช่กับตัวเอง โอกาสที่จะทำ ธุรกิจจะได้ไม่หลุดไป ซึ่งธุรกิจที่คิดไว้อาจจะเป็นร้านอาหาร หรือทำธุรกิจแฟรนไชส์ ในช่วงนี้ก็ต้องศึกษาเก็บข้อมูลไปก่อนจนกว่าจะพร้อมจริงๆ ถึงเวลานั้นเราก็ทำธุรกิจจากเงินที่ออมไว้ โดยไม่ต้องกู้ยืม หรืออาจจะกู้แค่นิดหน่อย

ฮัทเล่าต่อว่า ผมโชคดีที่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผม ในขณะที่เพื่อนๆ หลายคนก็ยังเรียนอยู่ ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ซึ่งถ้าผมเริ่มออม ตั้งแต่ตอนนี้ การออมก็จะส่งผลไปถึงอนาคตข้างหน้า เมื่อเรียนจบแล้ว ระหว่างที่ตัดสินใจว่าจะทำงานที่ไหน อยากทำอะไร จะทำธุรกิจส่วนตัว หรือทำงานประจำ อย่างน้อย ช่วงระยะเวลานั้นก็ยังพอมีเงินออมอยู่ โดยไม่ต้องไปรบกวนที่บ้าน ทำให้มีเวลาได้ คิดมากขึ้นว่าเราชอบ และอยากที่จะทำอะไรที่เรารักจริงๆ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังเรียนอยู่ ถึงจะยังไม่ได้ทำงานหาเงินเองก็เริ่มออมได้เหมือนกัน เพราะทุกคนก็คงต้องได้ค่าขนม ค่าเดินทาง ถ้าใช้เงินอย่างประหยัด ไม่สุรุ่ย สุร่าย เงินที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาเราก็สามารถ เก็บออมได้ พอเก็บได้จำนวนหนึ่งแล้วนำไปฝากธนาคารก็จะได้ดอกเบี้ยด้วย อาจจะไม่ได้มากมาย แต่ก็ถือว่าได้ประโยชน์กว่าเก็บไว้เฉยๆ

สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ใช้เงินเพื่อตามกระแสเทคโนโลยี ผมมองว่า เทคโนโลยีถือ ว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราเอา มาใช้ให้ถูกวิธี แต่มันจะเป็นผลเสียทันทีถ้าเราถูกเทคโนโลยีครอบ งำ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้การสื่อสารสะดวกรวดเร็วขึ้น แต่การที่คนคนหนึ่งจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ก็ต้องดูด้วยว่า เหมาะสมกับวัยหรือไม่ หรือมีความจำเป็นแค่ไหน ในการที่จะต้องนำเทคโนโลยีไปใช้ หลายคนยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ก็ต้องไปขอเงินคุณพ่อคุณแม่ แต่บางคนที่ทำงานแล้วจำเป็นต้องใช้สื่อสารก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในส่วนนี้ก็มองว่า เวลาจะซื้ออะไรแล้วขอให้คิดไตร่ตรองให้ดีว่าเหมาะสมไหม มีประโยชน์มากแค่ไหน คุ้มค่ากับเงินที่เราจะเสียไปหรือไม่ ที่สำคัญทำให้ใครเดือดร้อนรึเปล่า

สำหรับคนที่ยังอยู่ในวัยเรียนเวลาที่อยากจะได้อะไรก็ควรที่จะรู้จักการออมเงินเก็บเงินเองก่อน เพราะอย่างน้อยก็เป็น สิ่งที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเราเอง มันก็เป็นอะไรที่น่าภูมิใจ แล้วเราจะรักษาอย่างดี เพราะบางทีการได้มาฟรี จากการที่พ่อแม่ซื้อให้ บางคนก็ไม่เห็นค่า

สุดท้ายนี้ฮัทได้ฝากข้อคิดไว้ว่า คิดว่า วัยรุ่นในสมัยนี้ก็ควรจะหันมาสนใจในเรื่องของการออมเงินให้มากขึ้น เพราะว่าในยุคสมัยนี้ มีสิ่งของล่อใจ ทำให้เรามีแต่รายจ่าย เต็มไปหมด ถ้าไม่เริ่มประหยัดตั้งแต่ตอนนี้ ก็อาจจะเกิดปัญหาที่ตามมาได้ เพราะหลาย คนก็ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ถ้ามีการฝึกตัวเองให้มีการออมตั้งแต่ตอนนี้ อนาคตก็จะสบาย ไม่ว่าจะทำงานประจำ ทำธุรกิจส่วนตัว หรือมีครอบครัว อย่างน้อยเราก็รู้จักการออมเงิน ซึ่งมันเป็นผลดีมากต่อการดำรงชีวิต