ตลอดระยะเวลา 4 ปีของ Mike Duke เจ้าของดีกรีวิศวอุตสาหกรรม แห่งสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย ในตำแหน่งซีอีโอ ของวอล-มาร์ท เขาใช้ความสามารถสร้างความรุ่งเรืองแก่วอล-มาร์ทอย่างต่อเนื่อง กระทั่งคณะกรรมการของวอล-มาร์ท ไม่เสียดายที่จะจ่ายค่าตอบแทนอย่างงามแก่เขา
เมื่อปีที่แล้ว Mike Duke ได้รับค่าตอบแทนในการทำหน้าที่ซีอีโอของวอล-มาร์ท สูงถึง 20.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 670 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้รับการยกย่องจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดเป็นอันดับ 10 ของโลกสำหรับปีนี้อีกด้วย
เบื้องหลังการเปลี่ยนตัวซีอีโอของค่ายวอล-มาร์ท คราวนี้ เหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมา นับตั้งแต่ Sam Walton ซึ่งเป็นทายาทสายโลหิตของตระกูลวอลตัน ผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจวอล-มาร์ท มาเป็น Lee Scott หรือ David Glass กระทั่งมาถึงยุคของ Mike Duke คือเปลี่ยนตามคำร้องขอของผู้ดำรงตำแหน่ง เพื่อความสอดคล้องกับยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนไป
กรณีการเปลี่ยนตัว Mike Duke ไปเป็นบุคคลอื่นที่น่าจะเหมาะสมกว่าในคราวนี้ก็เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าตัวที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และเพิ่งจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งที่ผลงานของเขาในการบริหารอาณาจักรธุรกิจวอล-มาร์ท เป็นที่พึงพอใจอย่างสูงของคณะกรรมการบริษัท
สำหรับซีอีโอหน้าใหม่ที่จะเข้ามาสานต่องานจาก Mike Duke นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป ไม่ใช่คนหน้าใหม่สำหรับชาววอล-มาร์ท
เส้นทางการเติบใหญ่ในหน้าที่การงานของ Doug Mc Millon ในอาณาจักรวอล-มาร์ท ก่อนที่จะได้รับการชูมือให้สวมตำแหน่งซีอีโอต่อจาก Mike Duke คือการได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกิจการของวอล-มาร์ทใน 26 ประเทศนอกสหรัฐอเมริกา ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารกิจการต่างประเทศ
Rob Walton ประธานกรรมการวอล-มาร์ทสโตร์อิงค์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่สุดและทรงอิทธิพลสูงสุดในการสนับสนุนให้ที่ประชุมคณะกรรมการของวอล-มาร์ทมีมติเห็นชอบให้ Doug Mc Millon ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ต่อจาก Mike Duke ระบุว่า Doug Mc Millon คือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งซีอีโอ ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ
ประการแรก Doug Mc Millon ถือเป็นลูกหม้อของวอล-มาร์ท และเข้าใจปรัชญาธุรกิจ ตลอดจนวัฒนธรรมของวอล-มาร์ทอย่างลึกซึ้ง
ประการที่สอง Doug Mc Millon มีภาวะความเป็นผู้นำที่มีขีดความสามารถจะนำพาวอล-มาร์ทไปสู่ความเจริญ ก้าวหน้าภายใต้ความท้าทายใหม่ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประการที่สาม Doug Mc Millon มีความรอบรู้ในพฤติกรรมผู้บริโภคในหลายประเทศ ซึ่งเป็นความจำเป็นสำหรับการขยายขอบเขตธุรกิจวอล-มาร์ทไปสู่ตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบราซิล อินเดีย และจีน