แอมเนสตี้เผย 142 ประเทศไม่ประหารชีวิตแล้ว แต่ปี 60 จีนยังครองแชมป์

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561

แอมเนสตี้เผย 142 ประเทศไม่ประหารชีวิตแล้ว แต่ปี 60 จีนยังครองแชมป์


แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดรายงานสถานการณ์โทษประหารชี วิตและการประหารชีวิตปี 2560 พบ ว่าการประหารชีวิตส่วนใหญ่ในโลก เกิดขึ้นในประเทศจีน อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย อิรักและปากีสถาน ตามลำดับ ในอาเซียนมี สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนามที่มีการประหารชีวิต ประชาชน ส่วนไทยยังคงเป็นหนึ่งใน 56 ประเทศที่ยังใช้โทษประหารชีวิตอ ยู่ ในขณะที่อีก 142 ประเทศทั่วโลกย กเลิกโทษประหารชีวิตทั้งในทางกฎ หมายหรือในทางปฏิบัติแล้ว

ในรายงาน “สถานการณ์โทษประหารชี วิตและการประหารชีวิตในปี 2560”  (Death Sentences and Executions in 2017) ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลที่เผยแพร่ในวั นนี้ ยืนยันว่าแนวโน้มทั่วโลกมุ่งสู่ การยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยในปี 2560 มีประชาชนอย่างน้อย 993 คนที่ถู กประหารชีวิตใน 23 ประเทศ โดยตัวเลขเหล่านี้ไม่ครอบคลุมกา รประหารชีวิตหลายพันครั้งที่เกิ ดขึ้นในจีน ซึ่งทางการถือว่าข้อมูลการใช้โท ษประหารชีวิตเป็นความลับทางราชก าร

ในปี 2560 มีการตัดสินโทษประหารชีวิตอย่าง น้อย 2,591 ครั้งใน 53 ประเทศ โดย 50 ประเทศได้พิพากษาประหารชีวิต หรือประหารชีวิตประชาชนในคดียาเ สพติด ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมา ยระหว่างประเทศ ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเ หนือมีการประหารชีวิตในคดียาเสพ ติดสูงสุด ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมี ประเทศที่ใช้โทษประหารชีวิตกับค วามผิดนี้สูงสุด คือ 10 จาก 16 ประเทศ และจนถึงสิ้นปี 2560 ยังคงมีนักโทษประหารอยู่ทั่วโลก อย่างน้อย 21,919 คน

เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีเพียง 16 ประเทศ ที่ยกเลิกโทษประหารชีวิต ปัจจุบันมี 142 ประเทศหรือมากกว่ า 2 ใน 3 ของประเทศทั่วโลกที่ ได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้ งในทางกฎหมายหรือในทางปฏิบัติ แล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าทัศนคติและคว ามเชื่อดั้งเดิมสามารถเปลี่ยนแป ลงได้

สำหรับประชาคมอาเซียนซึ่งประกอบ ด้วยสมาชิก 10 ประเทศนั้น กัมพูชาและฟิลิปปินส์ได้ยกเลิกโ ทษประหารชีวิตสำหรับความผิดทางอ าญาทุกประเภทแล้ว ส่วนบรูไน ลาว และเมียนมาได้ยกเลิกโทษประหารชี วิตในทางปฏิบัติ (หมายถึงการที่ยังคงไว้ซึ่งโทษป ระหารชีวิต แต่ได้ระงับการประหารชีวิตจริงเ ป็นระยะเวลา 10 ปีติดต่อกัน) ส่วนประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์และเวียดนามยังคงมีและใ ช้โทษประหารชีวิตอยู่

ข้อมูลจากรายงานล่าสุดระบุว่า สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนามยังคงประหารชีวิตประ ชาชนในปี 2560 โดยสิงคโปร์ประหารชีวิตประชาชนแ ปดคน  ในขณะที่มาเลเซียมีอย่างน้อยสี่คนที่ถูกประหารชีวิต ส่วนเวียดนามมีแนวโน้มการประหาร ชีวิตที่สูงที่สุดในภูมิภาค แม้ทางการจะไม่ได้มีการเปิดเผยส ถิติการประหารชีวิตอย่างเป็ นทางการ เนื่องจากตัวเลขการประหารชีวิตถื อเป็นความลับทางราชการ จึงไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แท้ จริงได้

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเปิดเผยว่า ไทยยังคงเป็นหนึ่งใน 56 ประเทศที่ยังใช้โทษประหารชีวิตอ ยู่ ในปี 2560 มีการตัดสินโทษประหารชีวิต 75 ครั้ง ถือว่าลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ที่มีถึง 216 ครั้ง แม้ว่าประเทศไทยยังมีโทษประหารชี วิตอยู่ แต่มีการประหารชีวิตครั้งสุดท้า ยเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2552 ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่ ปีที่เก้าที่ไม่มีการประหารชีวิ ตจริง

“ขณะนี้ประเทศไทยใกล้จะกลายเป็น ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตใ นทางปฏิบัติแล้ว หากไม่มีการประหารชีวิตติดต่อกั นครบสิบปี องค์การสหประชาชาติจะถือว่าเป็น ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตใ นทางปฏิบัติทันที ซึ่งจะกลายเป็นพัฒนาการด้านสิทธิ มนุษยชนครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ งของไทย”

สำหรับประเทศไทยข้อมูลจากกรมราช ทัณฑ์ ณ วันที่  31 ธันวาคม 2560 ระบุว่ามีนักโทษประหารชีวิตทั้ง หมด 502 คน เป็นชาย 414 คน หญิง 82 คน โดยกว่าครึ่งเป็นความผิดที่เกี่ ยวข้องกับยาเสพติด

 “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องรัฐบาลไทยให้ดำเนินการ ตามเจตน์จำนงที่ระบุไว้ในแผนสิ ทธิมนุษยชน โดยประกาศพักการใช้โทษประหารชีวิ ตชั่วคราวอย่างเป็นทางการ และเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อลดจำนวน ความผิดทางอาญาที่มีบทลงโทษด้ วยการประหารชีวิต รวมทั้งให้ลงนามและให้สัตยาบันรั บรองพิธีสารเลือกรับฉบับที่สองข องกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิ ทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (Second Optional Protocol to the International Covenant on Civil and Political Rights) ที่มุ่งยกเลิกโทษประหาร ชีวิต” ปิยนุชกล่าวทิ้งท้าย

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลคัดค้านโทษประ หารชีวิตทุกกรณีโดยไม่มีข้ อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญาประเ ภทใด ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีบุคลิกลัก ษณะใด หรือไม่ว่าทางการจะใช้วิธีประหา รชีวิตแบบใด โทษประหารชีวิตละเมิดสิทธิที่จะ มีชีวิตตามที่ประกาศไว้ในปฏิญญา สากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งมีงานวิจัยมากมายจากนานา ประเทศได้แสดงให้เห็นอย่างชั ดเจนว่าโทษประหารชีวิตไม่มี ความเชื่อมโยงใด ๆ กับการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของอาชญ ากรรมที่เกิดขึ้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ