“ไมเนอร์” คว้า OVS อิตาลี ท้าชิงตลาดฟาสต์แฟชั่นไทย

วันพุธที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2561

“ไมเนอร์” คว้า OVS อิตาลี ท้าชิงตลาดฟาสต์แฟชั่นไทย


นาย เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดแฟชั่นยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับไมเนอร์อยู่เสมอ  โดยเฉพาะในประเทศไทยยังเห็นได้ว่าการแข่งขันที่เริ่มสูงขึ้นในตลาดฟาสต์แฟชั่น โดยปีที่ผ่านมาตลาดเสื้อผ้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 4.4  %  และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตขึ้นอีก4.1 % หรือมีมูลค่าสูงถึง 234พันล้านบาท โดย ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่นคาดว่าบริษัทฯ จะมีรายได้จากสินค้าประเภทเสื้อผ้านำเข้าจากแบรนด์ต่างๆ สูงถึง 4 พันล้านบาท  ดังนั้น ปีที่แล้วบริษัทจึงจำเป็นต้องเร่งการเติบโตของเราให้เป็นไปตามเป้าหมาย และมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานบางอย่างสำหรับแบรนด์ที่มีอยู่ รวมทั้งมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ด้วย ซึ่งแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น เช่น ชาร์ลสแอนด์คีธ, เอสปรีและ บอสสินี่เติบโตสูงกว่ามาตรฐานตลาด ซึ่งอยู่ที่19 %  และยังมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วน แรทลีย์ ลอนดอน และ อเนลโล่ มียอดขายรวมสูงถึง 430 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวในประเทศไทยมาได้เพียง 1 ปี 

ล่าสุด  ในปีนี้บริษัทได้นำ แบรนด์แฟชั่นใหม่ล่าสุด OVS (โอวีเอส) เป็นแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นอันดับหนึ่งในอิตาลี ประกอบไปด้วยสินค้าสำหรับสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็ก ปัจจุบันมีร้านมากกว่า 1,300 สาขาทั้งในอิตาลีและต่างประเทศ โดยนำมาเปิดในประเทศไทยดำเนินงานบริหารโดยบริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

นาย นิศากร เมสันธสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไปของ OVS ประเทศไทย  กล่าวว่า OVS เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแบบฟาสต์แฟชั่นอันหนึ่ง และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเหนือคู่แข่งครอบคลุมทั้งในตลาดเสื้อผ้าผู้ชายผู้หญิงและเด็กรวมถึงมีอัตราการรู้จักแบรนด์สูงถึง 97% ในประเทศอิตาลี  มียอดขายสูงถึง 1.151 ล้านยูโร หรือประมาณ 43,738 ล้านบาทในปีพ.ศ. 2559 ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 1,300 สาขาทั้งในอิตาลีและประเทศอื่นๆ มีผู้เข้าชมร้านกว่าปีละ 150 ล้านคน สำหรับร้าน OVS แฟล็กชิพ สโตร์ ในมิลานนั้น มีขนาดใหญ่ถึง 2,800 ตารางเมตร และOVS ยังเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดสินค้าสำหรับเด็กในอิตาลีด้วยจำนวนตัวเลขส่วนแบ่งในตลาดที่มากถึงสองหลัก

สำหรับ  OVS มีโอกาสในการเติบโตสูงมากในประเทศไทย คาดว่าในปีแรกจะสร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท โดยทางแบรนด์ได้ลงเงินทุนเริ่มแรกกว่า 200 ล้านบาทสำหรับการขยายสาขาเพิ่มในปีนี้  โดย OVS คาดว่าจะเปิดสาขาได้ทั้งหมด 7 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ ซึ่งจะแบ่งเป็นร้านเต็มรูปแบบ 5 แห่ง ได้แก่ แฟล็กชิพ สโตร์ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา,จังซีลอน ภูเก็ต, แฟชั่น ไอส์แลนด์, เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ พร้อมด้วยร้าน OVS Kids 2 สาขาคือที่ เทอร์มินอล 21 พัทยาและท่าอากาศยานดอนเมือง

แฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกของแบรนด์ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของศูนย์การค้าเมกาบางนา ในโซนที่โดดเด่นติดกับร้าน Zara และตรงข้ามร้าน H&M โดยเมกาบางนาเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอิเกีย อาหาร แบรนด์แฟชั่น หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นห้างที่มีจำนวนลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยสูงที่สุด และเมื่อเทียบกับห้างสรรพสินค้าอื่นๆ แล้ว เมกาบางนาเติบโตมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัว ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของ OVS เพราะ 40% ของสินค้าเป็นเสื้อผ้าสำหรับเด็ก”

ใน 3 ปีข้างหน้า OVS จะเปิดสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เฉลี่ยเปิดเพิ่มอีก 3-5 สาขาในแต่ละปีด้วยพื้นที่ประมาณ 800-1,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาทต่อสาขา  ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าใน 3 ปีข้างหน้า เราจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ระดับท็อป 3 ของฟาสต์แฟชั่นในเมืองไทย”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ