ธอส.จัดทำเงินฝาก ธอส.ประชารัฐ ส่งเสริมการออมภาคประชาชน

วันจันทร์ที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2561

ธอส.จัดทำเงินฝาก ธอส.ประชารัฐ ส่งเสริมการออมภาคประชาชน


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลการดำเนินงานสามารถปล่อยสิ นเชื่อปล่อยใหม่ ณ 29 มีนาคม 2561 47,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี ก่อนประมาณ 18,000 ล้านบาท ดันยอดสินเชื่อคงค้าง 1.04 ล้านล้านบาท หวังสินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี คงที่ 10 ปีแรก ตอบโจทย์คนไทย รองรับนโยบายรัฐบาลในการเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เริ่มรับยื่นกู้ 2 เมษายน 2561 ล่าสุดเปิดตัว “เงินฝาก ธอส.ประชารัฐ” ดอกเบี้ยสูงสุด 1.65% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่ผ่านโครงการพั ฒนาความรู้ทางการเงินแก่ผู้มี รายได้น้อย (Financial Literacy) นอกจากนี้เตรียมเดินหน้าตามแผน Digital Transformation ยกระดับการให้บริการยุค 4.0 นำร่องโครงการ Payment Gateway พัฒนาช่องทางการรับชำระหนี้เงิ นกู้ แบ่งเป็น 3 เฟส ประกอบด้วย เฟส 1 Cash Payment : เครื่องชำระหนี้เงินกู้อิเล็ กทรอนิกส์ (LRM)  เฟส 2  Non Cash Payment : Dynamic QR Code และ เฟส 3 ชำระผ่าน GHB Mobile Application 

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 29 มีนาคม 2561 ว่าธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่ อใหม่ได้ทั้งสิ้นกว่า 47,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน โดยมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.04 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% กำไรสุทธิประมาณ 3,100  ล้านบาท สาเหตุสำคัญที่ทำให้สินเชื่อปล่ อยใหม่ของธนาคารขยายตัวได้ คือ ธนาคารได้ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่ ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่รองรับลู กค้าทุกกลุ่มอาชีพ / รายได้ อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่ อสวัสดิการแห่งรัฐ อัตราดอกเบี้ย 3.00% นาน 4 ปีแรก สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมผู้ที่ได้รับสิทธิในบั ตรสวัสดิการแห่งรัฐ มียอดปล่อยสินเชื่อแล้วถึง 5,230 ล้านบาท โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่ อสวัสดิการแห่งรัฐ(บุคลากรภาครั ฐ) อัตราดอกเบี้ย 3.00% นาน 4 ปีแรก สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ ราชการ ยอดปล่อยสินเชื่อกว่า 4,000 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 2 เท่ากับ MRR – 3.76% หรือเท่ากับ 2.99%  ต่อปี  ยอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 40,000 ล้านบาท ด้านสินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส อัตราดอกเบี้ย 10 ปีแรก คงที่ 3.99% ต่อปี ให้กู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีผู้กู้ร่วมได้ เริ่มรับคำขอยื่นกู้ตั้งแต่วั นจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561 ภายใต้กรอบวงเงิน 3,000 ล้านบาท โดยหลังจากธนาคารประกาศจัดทำผลิ ตภัณฑ์ดังกล่าวพบว่ามีลูกค้ าแสดงความสนใจที่จะเข้ามาติดต่ อขอยื่นกู้จำนวนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ ยาวนานถึง 10 ปีแรก นับเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ ตอบโจทย์คนไทยภายใต้แนวโน้มอั ตราดอกเบี้ยขาขึ้น

ด้านเงินฝากธนาคารจัดทำผลิตภั ณฑ์ เงินฝาก ธอส.ประชารัฐ สำหรับลูกค้าที่ผ่านโครงการพั ฒนาความรู้ทางการเงินสำหรับผู้ มีรายได้น้อย (Financial Literacy) เป็นเงินฝากออมทรัพย์อั ตราดอกเบี้ย 1.65% ต่อปี สำหรับวงเงินฝากคงเหลือไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนลูกค้าที่มีวงเงินฝากคงเหลื อมากกว่า 3 แสนบาท รับอัตราดอกเบี้ย 0.90% ต่อปี เปิดบัญชีเงินฝากครั้งแรกขั้นต่ำ 100 บาท ลูกค้าที่ฝากต่อเนื่องทุกเดือน นาน 6 เดือนติดต่อกัน และไม่มีการถอนเงิน จะได้รับของสมนาคุณจาก ธอส. ฟรี!! เปิดบัญชีภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ทั้งนี้ธนาคาร     จะนำ Mobile Deposit หรือเครื่องฝากเงินแบบมือถื อมาให้บริการ เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า โดยพนักงานธนาคารจะนำ Mobile Deposit ให้บริการสำหรับผู้มีรายได้น้ อยที่เข้าร่วมโครงการตามชุมชนต่ าง ๆ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ ทางการเงินเพื่ ออำนวยความสะดวกและส่งเสริ มการออม ซึ่งผู้ฝากจะได้รับสลิปเก็บไว้ เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมเช่ นเดียวกับการไปฝากที่ สาขาของธนาคารเช่นกัน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการพั ฒนาความรู้ทางการเงินฯ สามารถติดต่อได้ที่สาขา ธอส.ทั่วประเทศ    

ส่วนแนวทางการดำเนินงานของ ธอส. ในปีนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าคิดค้นผลิ ตภัณฑ์ใหม่เพื่อทำให้คนไทยมีบ้ าน พร้อมสนับสนุนนโยบายรั ฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านที่ อยู่อาศัยให้คนไทย ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการลู กค้าเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการโดยใช้ Big Data และในปี 2561 ธนาคารกำหนดให้เป็นปีแห่งการก้ าวเข้าสู่ Digital Services อย่างเต็มรูปแบบ ตามแผน Digital Transformation ยกระดับการให้บริการเริ่มจาก โครงการ Payment Gateway ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญ ในการพัฒนาช่องทางการชำระหนี้ เงินกู้ เพื่อตอบสนองต่อความต้ องการของลูกค้าประชาชนในยุค 4.0 ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2560 แบ่งเป็น 3 เฟส ประกอบด้วย

    เฟส 1 Cash Payment เครื่องชำระหนี้เงินกู้อิเล็ กทรอนิกส์ (LRM) จำนวน 80 เครื่อง ซึ่งจะทยอยติดตั้งที่สาขาทั่ วประเทศ สาขาละ 1 เครื่อง ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2561 จากเดิมที่ติดตั้งไปแล้วเมื่อปี 2560 จำนวน 90 เครื่อง ซึ่งภายในไตรมาส 2 ของปี 2561 สาขาของ ธอส. กว่า 170 แห่ง ที่มีจำนวนของผู้ใช้บริการและมี ยอดธุรกรรมสูงจะมีเครื่อง LRM ให้บริการชำระหนี้แก่ลูกค้าเพื่ อเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริ การในช่วงสิ้นเดือนได้มากยิ่งขึ้ น

    เฟส 2  Dynamic QR Code อำนวยความสะดวกให้ลูกค้ าสามารถชำระหนี้เงินกู้ ธอส.ได้สะดวกรวดเร็วโดยใช้  Mobile Application ของธนาคารใดๆก็ได้ เพียงระบุเลขที่บัญชีเงินกู้ และเลือกบัญชีและจำนวนเงินที่ต้ องการชำระ หลังจากนั้น ระบบจะสร้าง QR Code ของลูกค้ารายนั้นๆ ลูกค้าเพียงแค่เปิด Mobile Application ของธนาคารใดๆก็ได้มาสแกน QR Code ดังกล่าว ก็จะสามารถชำระหนี้เงินกู้ได้ทั นทีเช่นเดียวกับการชำระหนี้ที่ สาขาของธนาคาร โดยคาดว่าจะเริ่มนำ Dynamic QR Code มาให้บริการลูกค้าตามจุดต่าง ๆ ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

    เฟส 3 โครงการGHB Mobile Application เป็น Application ของ ธอส. ที่จะให้บริการลูกค้าได้อย่ างครบวงจร ทั้งการชำระหนี้เงินกู้ สินเชื่อและเงินฝาก โดยคาดว่าจะเริ่มนำออกให้บริ การในระยะแรกคือการชำระหนี้เงิ นกู้ได้ประมาณกรกฎาคม 2561 ซึ่ง GHB Mobile Application เมื่อเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จะสามารถให้บริการได้ทั้ งการชำระหนี้เงินกู้ สอบถามผลการพิจารณาสินเชื่อ แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ นัดทำนิติกรรม ดูใบเสร็จรับชำระหนี้อิเล็ กทรอนิกส์ ติดต่อเจ้าหน้าที่สินเชื่อ และแจ้งเตือนชำระหนี้ ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาได้เสร็จสมบู รณ์ภายในไตรมาส 4  ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้ นปี 2561 จำนวนธุรกรรมชำระหนี้เงินกู้ผ่ านเครื่อง LRM  Dynamic QR Code และ GHB Mobile Application จะไม่ต่ำกว่า 30% ของจำนวนที่มาชำระเงินกู้ที่ สาขาธนาคาร



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ