“สิริ คอสเมติก” ปั้นสินค้า ลุยธุรกิจความงาม ไม่หวั่นตลาดแข่งเดือด

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561

“สิริ คอสเมติก” ปั้นสินค้า ลุยธุรกิจความงาม ไม่หวั่นตลาดแข่งเดือด


บริษัท สิริ คอสเมติก จำกัด มั่นใจตลาดความงามยังโตต่อเนื่อง ทุ่มงบหลักล้าน เปิดธุรกิจสุขภาพและความงาม นำร่องไตรมาสแรก เปิดตัว  2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ Dark White  ครีมลดเลือนจุดด่างดำใต้วงแขน ขจัดปัญหา ข้อศอกด้าน หัวเข่าดำ และผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดผิวกาย S Luxury soap สบู่เมือกหอยทาก และ S Le Latte Scrub Soap สบู่สครับกาแฟ ช่วยขัดผิว พร้อมลุยทำการตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ เต็มกำลัง มั่นใจสิ้นปีสร้างรายได้ปีแรก 10 ล้านบาท

นางสิริกร ภัทร์คงสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สิริ คอสเมติก จำกัด กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้ตนเองทำธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งตอนนี้ก็ยังดำเนินธุรกิจดังกล่าวอยู่ แต่โดยส่วนตัวเป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้ว ประกอบกับมองเห็นว่าอุตสาหกรรมความงามในไทยปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 1.8 แสนล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี

โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิว เป็นตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 45 % หรือเกือบ 1 ใน 2 ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอันดับรองลงมาได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม และกลุ่มเครื่องสำอาง (ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) ยังมีช่องว่างในตลาดอยู่มากแม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยก็ยังคงมีแนวโน้มใส่ใจในเรื่องสุขภาพและความงามกันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น จึงได้ลงทุนเปิดบริษัท สิริ คอสเมติก จำกัด เพื่อลุยทำตลาดสุขภาพและความงาม ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและ ผิวกายตั้งแต่หัว จรดเท้า ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพในจุดซ่อนเร้นของผู้หญิง เป็นต้น  โดยบริษัทวางนโยบายไว้ว่าจะเป็นแนวทาง Green  Business เราไม่ได้เน้นทำเพื่อผลกำไร หรือเฉพาะการสร้างความสวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเน้นด้านสุขภาพและความปลอดภัยแก่ลูกค้า เป็นหลักสำคัญ ทางบริษัทจึงเลือกคัดสรร ส่วนผสมหลักจากสารสกัดจากธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  อีกทั้งเรามีนโยบายสร้างคุณค่า และคืนกำไรสู่สังคม โดยจะเน้นจัดกิจกรรม โดยให้ตัวแทน และพนักงานได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกับเรา และเติบโตไปพร้อมกัน

ทั้งนี้  ช่วงแรกบริษัทได้ลงทุนงบประมาณหลักล้าน  ซึ่งในอนาคตคาดว่าน่าจะเกิน 10 ล้านแน่นอน ในการนำร่องเปิดตัวสินค้าตัวแรก ได้แก่  Dark White เป็นครีมลดเลือนจุดด่างดำใต้วงแขน ข้อศอกด้าน หัวเข่าด้าน ที่ช่วยแก้ปัญหารอยดำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และตัวที่สองล่าสุดเพิ่งได้เปิดตัวไป คือ สบู่ คือ S Luxury soap (เอส ลักซ์ชัวรี่) สบู่เมือกหอยทากเน้นช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น จึงเหมาะกับช่วงอายุ 25 ปี ขึ้นไป และ S Le Latte scrub soap (เอส เดอร์ลาเต้ สครับ โซ๊ป) สบู่สครับกาแฟ ช่วยขัดผิว และเพิ่มความกระจ่างใส เหมาะกับช่วงอายุ 18-35ปี โดยสาเหตุที่เราเลือกทำสบู่เป็นตัวที่ 2 มาวางจำหน่ายนั้นเรามองเห็นว่าตลาดรวมสบู่มีมูลค่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสบู่เหลว 5,000 ล้านบาท และสบู่ก้อน 5,000 ล้านบาท โดยสบู่เหลวเป็นกลุ่มที่มีการเติบโต 10% ส่วนสบู่ก้อนเติบโตเพียง 3% เท่านั้น  ซึ่งยังถือว่าเป็นตลาดที่ยังโอกาสอยู่มากให้เราได้ลงมาทำตลาดนี้ 

สำหรับครึ่งปีแรกบริษัทวางแผนว่าเราน่าจะมีสินค้าออกมาจำหน่ายประมาณ 4-5 ตัว ซึ่งจะออกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเพิ่มอีก 2 ตัว คือสบู่ S amino skin soap (เอส อะมิโน สกิน โซ๊ป ) จะเป็นสบู่ที่มีโปรตีน 7 ชนิด และมีค่า PH 5.5–6 ซึ่งค่า PH ใกล้เคียงกับผิวที่สุด รูปลักษณ์เป็นสบู่ก้อนใส ประดุจคริสตัล แต่มีแผ่นทอง ต่อด้วยสบู่ S green caviar soap (เอส กรีน คาร์เวีย โซ๊ป) ที่กำลังจะผลิตออกมา โดยเน้นในเรื่องของ การแก้ฝ้า กระชับรูขุมขน และจุดด่างดำ ภายใต้ชื่อ SK GREEN CAVIAR FARM ที่จังหวัดเพชรบุรี และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในกลุ่มสกินแคร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสลิมอัพ ดูแลรูปร่างและน้ำหนักตัว ต่อไปในอนาคต

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับการทำธุรกิจในช่วงเริ่มแรกของปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายไว้ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ทำการตลาดผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหมด ดังนี้ คือ บริษัทจะเน้นทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ โดยทางออนไลน์จะทำผ่านเพจเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ เพื่อลงเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแนะนำสินค้า รวมทั้ง line@ เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และตอบคำถามต่างๆ ให้แก่ลูกค้า ในส่วนการตลาดออฟไลน์นั้น เราวางแพลนในการออกบูธไปตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบเล่นออนไลน์ควบคู่ไปด้วย และสำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายเราวางไว้ว่าจะทำการจัดจำหน่ายผ่านทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และผ่านตัวแทนของเรา

โดยทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถสอบถามการสั่งซื้อกับแอดมิน ทั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจ และไลน์แอด ซึ่งเรามีนโยบายว่าเราจะไม่ขายแข่งกับตัวแทน แต่เราจะแนะนำให้ลูกค้า ซื้อผ่านตัวแทนตามภูมิภาคต่างๆ ที่เรามีอยู่ สำหรับตัวแทนของเรานั้น เราต้องการจะให้เค้ามีรายได้ และเติบโตไปกับบริษัท โดยเราจะเน้นสร้างดีลเล่อร์ในแต่ละภาค แล้วให้เค้าดูแลลูกทีมของตัวเอง

นอกจากนี้ แผนในระยะยาวบริษัทมองว่าจะทำการขยายสินค้าไปทำตลาดยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง AEC โดยเฉพาะในกลุ่มแถบ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar, Vietnam) เพราะเรามองว่าตลาดดังกล่าวมีการได้เปรียบเรื่องการขนส่งที่สะดวก สำหรับการที่จะขยายวงกว้างออกไปในแถบประเทศอาเซียนได้ดีตามลำดับ”

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ