กระแสความตื่นตัวของชาวอเมริกันในการเอาใจใส่ดูแลรักษาสุขภาพ กำลังสร้างความปั่นป่วนแก่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มประเภทปลอดน้ำตาลอย่างกว้างขวาง

"Berverage Marketing Corp" ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการข้อมูลการตลาดระบุว่า ตลาดเครื่องดื่มประเภทไดเอต ที่ใช้สารให้ความหวานแบบสังเคราะห์ แทนน้ำตาลกำลังหดตัวลงอย่างน่าใจหาย

เหตุปัจจัยที่กดดันให้ตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้หดตัวลง เกิดจากผลการพิสูจน์ยืนยันด้วยข้อมูลด้านสุขภาพและการแพทย์ไม่ว่าจะจัดทำโดยศาสตราจารย์ซูซาน สวิทเธอร์ แห่งมหาวิทยาลัยเปอร์ดู หรือโดยศาสตราจารย์ดาน่า สมอลล์ แห่งมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งล้วนระบุตรงกันว่าการดื่มเครื่องดื่มประเภทไดเอตทั้งหลาย ที่อาศัยสารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่ได้ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก แต่ในทางตรงกันข้ามการดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวไม่เพียงมีผลทำให้อ้วนได้เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความดันโลหิต และอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจ และมะเร็งได้อีกด้วย

ปฏิกิริยาทางลบที่กำลังเกิดขึ้นกับเครื่องดื่มประเภทไดเอต ทำเอาค่ายผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่างน้อย 3 ค่ายคือค่ายโคคา-โคลา เจ้าของเครื่องดื่ม "ไดเอตโค้ก" และ "โค้กซีโร่" ค่ายเป๊ปซี่โคล่า เจ้าของเครื่องดื่ม "เป๊ปซี่แม็กซ์" และค่ายดอกเตอร์เป๊ปเปอร์ สแนปเปิลกรุ๊ป ถึงกับนั่งไม่ติด จำเป็นต้องเร่งคิดค้นหาสารให้ความหวานชนิดอื่นที่เป็นสารอินทรีย์ มาใช้แทนสารให้ความหวานที่ใช้อยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทที่ว่านี้เป็นผลิตภัณฑ์สำคัญที่มีบทบาทอย่างสูงในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัท

ปรากฏการณ์ความตกต่ำของตลาดเครื่องดื่มประเภทไดเอต ดูจะสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของตลาดเบียร์ในสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลของสำนักวิจัย "Beer Marketers Insights" บ่งชี้ว่าในรอบระยะเวลา 5 ปีระหว่างปี 2550-2555 ตลาดเบียร์สหรัฐอเมริกา มีการหดตัวลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 2.3 หรือคิดเป็นปริมาตรประมาณ 4,800,000 บาร์เรล ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 768 ล้านลิตร

ภายใต้การหดตัวลงของตลาดเบียร์ดังกล่าว พบว่ามีเบียร์ยอดนิยม 9 ยี่ห้อที่มีการหดตัวของยอดขายในระดับที่รุนแรงที่สุด

Michelob Light มียอดขายหดหายไปร้อยละ 69.6

Budweiser Select ยอดขายหดหายไปร้อยละ 61.5

Milwaukees Best Premium ยอดขายหดหายไปร้อยละ 58.5

Miller Genuine Draft ยอดขายหดหายไปร้อยละ 56.4

Old Milwaukee ยอดขายหดหายไปร้อยละ 54

Milwaukee Best Light ยอดขายหดหายไปร้อยละ 39.7

Heineken ยอดขายหดหายไปร้อยละ 36.7

Budweiser ยอดขายหดหายไปร้อยละ 28.8

Labatt Blue ยอดขายหดหายไปร้อยละ 28.3

สาเหตุที่ยอดขายเบียร์ในตลาดสหรัฐอเมริกาตกต่ำลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีอยู่ด้วยกัน 2 ประการ

ประการแรก เป็นสาเหตุที่อิทธิพลความตกต่ำของเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของบรรดาคอเบียร์ทั้งหลาย ซึ่งจำเป็นต้องบันยะบันยังการดวดเบียร์ เพื่อประหยัดเงินไปทำประโยชน์ด้านอื่น

ประการที่สอง บรรดาคอเบียร์อาจจะเบื่อกับเบียร์อ่อนๆ ที่มีรสชาติจำเจ เนื่องจากยอดขายเบียร์ที่มีดีกรีสูงขึ้น และเบียร์ที่มีการปรุงแต่งรสชาติแปลกใหม่ กลับมียอดขายที่ดีวันดีคืน

พฤติกรรมการดวดเบียร์ของชาวอเมริกัน น่าจะบ่งชี้ว่าในยามอัตคัดขัดสน...เบียร์แรงๆ ที่ดื่มแล้วเมาเร็วๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้น...ทั้งนี้ก็เพื่อความเมาแบบประหยัด