นางสาวภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้นและสตรองโบว์ กลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวว่า บริษัทประเดิมทำตลาดตั้งแต่ต้นปีด้วย “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง” นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของไฮเนเก้นในตลาดเบียร์พรีเมียม และเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาโดยตลอด โดยในปี 2018 นี้เรายังคงเดินหน้าสานต่อการสนับสนุนงานดนตรีที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดตอกย้ำความเป็นผู้นำของตลาดเบียร์พรีเมียมที่จะช่วยเชื่อมแบรนด์เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ภายใต้แบรนด์ดีเอ็นเอ Heineken® Open Your Music “ไฮเนเก้น โอเพ่น ยัวร์ มิวสิค 2018” โดยไฮเนเก้นจะวางบทบาทของแบรนด์ให้เป็นมากกว่าผู้สนับสนุนงานเทศกาลดนตรีแบบเดิมๆ  โดยใช้กลยุทธ์ “Five-Star Music Experience” ในการยกระดับประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างและเหนือระดับอีกขั้น เพื่อสร้างให้ทุกเทศกาลดนตรีที่ไฮเนเก้นเข้าไปสนับสนุนเป็นที่จดจำยิ่งขึ้นพร้อมกับโมเม้นต์ที่คุณจะต้องประหลาดใจ แบบที่ทุกคนต่างตั้งตารอและพลาดไม่ได้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่จัดขึ้นโดยไฮเนเก้น  

โดยประเดิมครึ่งปีแรกกับ 3 เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่แบบสะเทือนทุกแพลตฟอร์มทางด้านดนตรีทั้งงานระดับประเทศรวมไปถึงระดับโลก 1) "YAK Festival"  2) "S2O Songkran Music Festival"  และ 3) "Sensation Thailand 2018 presented by Heineken"  ซึ่งทั้ง 3 งานนี้ ไฮเนเก้นจะช่วยยกระดับเติมเต็มประสบการณ์ที่แตกต่างและเป็นที่จดจำผ่าน  Heineken® Star Hive ที่จะตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นการเติมเต็มความสนุกในเทศกาลดนตรีแบบครบทั้ง 5 ด้าน เสมือนสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกของแบรนด์ไฮเนเก้น ประกอบด้วย 1. ประสบการณ์ด้านดนตรี 2. ที่พักระดับพรีเมียม 3.สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ 4. ประสบการณ์การดื่ม 5. การสานต่อความยั่งยืนในการรับผิดชอบต่อสังคม

“ ปัจจุบันไฮเนเก้นเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการเป็นผู้นำในกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียมอยู่ที่ 78% เท่ากับมูลค่า 3,500 ล้านบาท จากภาพรวมตลาดพรีเมียม 4,800 ล้านบาท ทั้งนี้แม้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้งจะไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องการสร้างยอดขายโดยตรง แต่ดนตรีจะเป็นสะพานที่เชื่อมไฮเนเก้นเข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย โดยคาดว่าจะเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีก่อน 20% สำหรับใน 3 เทศกาลงานดนตรีสุดยิ่งใหญ่ที่กล่าวมาข้างต้น”