ธุรกิจโลก

ในที่สุดสงครามการค้าระหว่างรัสเซีย และเครือข่ายพันธมิตรนาโต้นำโดยสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ซึ่งคุกรุ่นมานานแรมเดือนก็ถึงจุดระเบิดตูมตามขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรีดิมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นบุคคลที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไว้วางใจที่สุดคือบุคคลที่ประกาศสงครามการค้ากับบรรดาเครือข่ายพันธมิตรนาโต้ทั้งหลาย ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นการตอบโต้การคว่ำบาตรที่กลุ่มประเทศแนวร่วมนาโต้กระทำต่อรัสเซีย โดยอ้างเหตุรัสเซียใช้อำนาจบาตรใหญ่คุกคามอธิปไตยของยูเครน

สาระสำคัญในคำประกาศสงครามการค้าของนายกรัฐมนตรีแห่งรัสเซีย ระบุชัดเจนถึงการห้ามนำเข้าสินค้า 7 ประเภทจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย นอร์เวย์ ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์

สินค้า 7 ประเภทที่กลายเป็นผลิตภัณฑ์ต้องห้ามนำเข้าตามคำประกาศของนายกรัฐมนตรีรัสเซียประกอบไปด้วยเนยแข็ง ปลา เนื้อวัว เนื้อหมู ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์จากนม

นอกเหนือจากนี้นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ยังสั่งห้ามเครื่องบินสัญชาติยูเครนบินผ่านน่านฟ้าของรัสเซียอีกด้วย

ทันทีทันใดที่รัสเซียตอบโต้การคว่ำบาตรของพันธมิตรนาโต้ สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกาก็ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำของรัสเซียถือเป็นการทำร้ายตัวเอง และโดดเดี่ยวตัวเองจากประชาคมโลก

ในทางกลับกันนายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟ ยืนยันว่ารัสเซียจะสามารถพลิกสถานการณ์ที่ถูกปรามาสไปสู่ความได้เปรียบได้ในที่สุด ก่อนหน้านี้กลุ่มประเทศแนวร่วมนาโต้ ได้คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย โดยหวังว่าจะกดดันให้รัสเซียปรับเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อยูเครน และหยุดคุกคามยูเครน แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์กลับพากันตั้งข้อสงสัยว่าไม่แน่นักว่าผลลัพธ์จากการคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของรัสเซีย เนื่องจากบรรดาธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลในระบบเศรษฐกิจของรัสเซียล้วนมีหุ้นส่วนเป็นกิจการอยู่ทั้งในสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปทั้งสิ้น

ยกตัวอย่างธุรกิจน้ำมันอันดับ 1 ในรัสเซีย อย่าง “รอสเนฟท์” เมื่อล้วงลึกถึงแก่นโครงสร้างทุนแล้ว จะพบว่ามีค่ายบริติชปิโตรเลียม ของอังกฤษ และค่ายแอ็กซอน ของสหรัฐอเมริกา เอี่ยวอยู่ด้วย

ทำนองเดียวกันธุรกิจก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 ในรัสเซีย อย่าง “โนวาเท็ค” ก็มีกลุ่มโททอล ของฝรั่งเศสร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย

ธนาคารอันดับ 1 ในรัสเซีย อย่าง “SBER Bank” ก็มีค่าย BNP Paribas สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส ร่วมถือหุ้น

สำหรับกิจการที่เป็นทรัพย์สินรัสเซียล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็น United Shipbuilding Corp. ก็เป็นกิจการสร้างเรือป้อนกองทัพเรือรัสเซีย ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาตลาดนอกประเทศ

เช่นเดียวกับ “Kalashnikov” ซึ่งผลิตยุทโธปกรณ์ ก็มีกองทัพรัสเซีย เป็นลูกค้ารายสำคัญ ไม่จำเป็นต้องส่งออกไปขายที่ไหน

ยิ่งไปกว่านั้นทุนสำรองของรัสเซียตอนนี้ ก็มีอยู่เหลือเฟือ ไม่มีความจำเป็นต้อง “ยืมจมูก” ต่างประเทศหายใจ

ไปๆ มาๆ สงครามการค้าระหว่างรัสเซีย กับสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และพวก น่าลงเอยด้วยความทุรนทุรายของฝ่ายที่อยู่ตรงกันข้ามกับรัสเซียซะมาก กว่า โดยที่องค์การการค้าโลกได้แต่อ้าปาก หวอเฝ้ามองตาปริบๆ ปล่อยให้อินทรีกับหมีฟัดกันตามอัธยาศัย